ระวัง! สถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ 5 จว. เฝ้าระวังระดับน้ำหลายพื้นที่จากอิทธิพลพายุตาลัส
logo ข่าวอัพเดท

ระวัง! สถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ 5 จว. เฝ้าระวังระดับน้ำหลายพื้นที่จากอิทธิพลพายุตาลัส

ข่าวอัพเดท : พายุตาลัสยังส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ทีมข่าวในพื้นที่ได้รวบรวมสถานการณ์ในหลายจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนี้ เชียงใหม่,เชียงราย,แพร่,ลำปาง,พะเยา

2,921 ครั้ง
|
18 ก.ค. 2560

พายุตาลัสยังส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ทีมข่าวในพื้นที่ได้รวบรวมสถานการณ์ในหลายจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนี้

 

จ.เชียงราย

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้านี้ โดยทางจังหวัดมีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด24 ชั่วโมง และสำรวจแม่น้ำทุกสาย จากการตรวจปริมาณน้ำฝนที่ตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ด้วยเครื่องตรวจปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในพื้นที่ ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณน้ำฝนได้ 117.5 มิลลิเมตร และพื้นที่ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า วัดได้ 96 มิลลิเมตร

         ด้านนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม พร้อมทั้งให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร แจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบโดยตรง และให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ให้เตรียมสถานที่ปลอดภัย จุดอพยพ จุดพักพิง กรณีที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก

         สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากใน จ.เชียงราย ประกอบด้วย : อ.เมืองเชียงราย ได้แก่ ต.แม่ยาว ห้วยชมพู ดอยฮาง แม่กรณ์ นางแล และต.ท่าสุด, อ.เชียงแสน ได้แก่ ต.แม่เงิน และต.แม่บ้านแซว, อ.เชียงของ ได้แก่ ต.ริมโขง เวียง ศรีดอนชัย ครึ่ง ห้วยซ้อ และต.บุญเรือง, อ.เทิง ได้แก่ ต.ตับเต่า และต.หงาว, อ.เวียงแก่น ได้แก่ ต.หล่ายงาว ม่วงยาย ท่าข้าม และต.ปอ, อ.แม่ฟ้าหลวง ได้แก่ ต.เทิดไทย แม่สลองใน แม่ฟ้าหลวง และต.แม่สลองนอก, อ.แม่ลาว ได้แก่ต.โป่งแพร่ และต.ดงมะดะ, อ.แม่สรวย ได้แก่ ต.ศรีถ้อย แม่พริก ท่าก๊อ เจดีย์หลวง วาวี ป่าแดด และต.แม่สรวย, อ.พญาเม็งราย ได้แก่ ต.ไม้ยา และ อ.เวียงป่าเป้า ได้แก่ ต.สันสลี

 

จ.แพร่

         ที่ฝายแม่ยม อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นฝายคอนกรีตที่ยาวที่สุดในประเทศ ระดับน้ำยมได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งระดับน้ำเมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ ที่จุดวัดระดับน้ำห้วยสัก อ.สอง จ.แพร่ มีความสูงที่ 7.80 เมตร ปริมาตร 343.7 ลบ.ม. ซึ่งถือว่าเกินพิกัด ทำให้สำนักงานฝายแม่ยมต้องเร่งเปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อปล่อยให้น้ำยมไหลผ่าน เตรียมรับกับน้ำเหนือที่จะบ่าลงมาในช่วงเย็นของวันนี้

         ทั้งนี้ หากระดับน้ำยมที่จุดวัดระดับห้วยสัก อ.สอง เพิ่มขึ้นถึงระดับ 9-10 เมตร ก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายอำเภอ รวมทั้ง พืชไร่และพืชสวนที่ปลูกอยู่ตามที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำยมจะได้รับความเสียหาย ซึ่งราษฎรที่อาศัยอยู่ใกล้น้ำยมได้เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงกันแล้ว และต่างทยอยกันมาเฝ้าดูระดับน้ำกันตลอดทั้งวัน โดยปีนี้ถือว่าน้ำในแม่น้ำยมมีปริมาณมากและมาเร็วกว่าทุกปีซึ่งจะมีมากในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน

         นายสวัสดิ์ ใจเอื้อ เจ้าหน้าที่สมาคมศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ จ.แพร่ กล่าวว่า ผลกระทบจากพายุตาลัสทำให้เกิดฝนตกหนักใน จ.แพร่ ทำให้น้ำไหลผ่านฝายแม่ยม อ.สอง มากจนผิดปกติ โดยสังเกตได้จากหลักวัดระดับน้ำของฝายแม่ยม ที่มี 4 หลัก จมไปแล้ว 2 หลัก ทั้งนี้ น้ำยมในตอนนี้ยังต้องรอรับน้ำจาก อ.ปง และ อ.เชียงม่วน ที่จะไหลมาสมทบในช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งปริมาณน้ำจะมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะเข้าท่วมเขต อ.สูงเม่นบางส่วน ซึ่งหากปริมาณน้ำมากและรวมกับแม่น้ำสาขาอีกก็จะทำให้มีน้ำท่วมในเขตตัวเมืองบ้าง แต่คาดว่าปลายน้ำที่ จ.สุโขทัย ซึ่งรับน้ำท่วมในครั้งนี้จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

จ.ลำปาง

         ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยหลวงต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง นางสาวนิยมล ยาวินัง ปลัดอาวุโส อ.วังเหนือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปางสาขาวังเหนือ เข้าสำรวจแหล่งธารน้ำตกวังแก้ว ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ หลังจากพื้นที่บนภูเขาอุทยานดอยหลวง ซึ่งเป็นผืนป่าต้นกำเนิดแหล่งน้ำตกและอยู่บริเวณด้านบนของอุทยานยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่ธารน้ำตกมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น อาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนนักท่องเที่ยวได้

         และเพื่อป้องกันเหตุร้ายและอันตรายต่อนักท่องเที่ยว อ.วังเหนือจึงประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ต.วังแก้ว บริเวณท้ายน้ำตกให้เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ประกอบกับที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติดอยหลวงได้ประกาศปิดให้บริการนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำภายในน้ำตกวังแก้ว เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน 2560 ห้ามไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปเดินลัดเลาะตามลำธารของน้ำตกหรือลงเล่นในน้ำตกโดยเด็ดขาด ตลอดจนไม่ให้ตั้งเต้นพักแรมอยู่ริมน้ำ

         สำหรับน้ำตกวังแก้วเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งมีธารน้ำตกไหลตลอดทั้งปี มีความสูงชันมีธารน้ำตกลดหลั่นกันถึง 110 ชั้น พร้อมทั้งยังเป็นแหล่งต้นกำเนิดของลำน้ำวังอีกด้วย

 

จ.พะเยา

         ชาวบ้านที่เดินทางมาจ่ายตลาด โดยเฉพาะตลาดสดตอนเช้าในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ต่างต้องเดินทางลุยน้ำเพื่อทำการซื้อขายของ หลังจากน้ำจากลำน้ำร่องช้าง ในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ เริ่มไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ หลังยังคงมีฝนตกลงมาในพื้นที่ต้นน้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน จนทำให้ปริมาณน้ำจากลำน้ำร่องช้างเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ เป็นบริเวณกว้าง

         ขณะที่ปริมาณน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่หมู่ที่ 3 และ4 ต.บุญเกิด อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ระดับน้ำยังคงมีท่วมขังในระดับ 20-30 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดถนนสายบุญเกิด-บุญเรือง บริเวณข้างสถานีตำรวจภูธรดอกคำใต้ เพราะน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ชาวบ้านต่างเร่งนำกระสอบทรายเข้าทำการป้องกันบริเวณบ้านของตนเองเนื่องจากเกรงปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาตลอดโดยไม่มีท่าทีจะหยุด หน่วยงานราชการหลายแห่งต้องประกาศให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องและให้เตรียมขนย้ายข้าวของไว้ในที่สูง เนื่องจากปริมาณน้ำบริเวณต้นน้ำเริ่มไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน

 

จ.เชียงใหม่

         เช้าวันนี้นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เผยว่าหลังจากช่วงเย็นเมื่อวานนี้ น้ำตกในพื้นที่ 3 แห่ง คือคือน้ำตกแม่สา, น้ำตกตาดหมอก และน้ำตกหมอกฟ้ามีปริมาณน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะน้ำตกตาดหมอก อ.แม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อ.แม่แตง ทำให้เช้านี้เจ้าหน้าที่ประจำน้ำตกต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ยังสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ปกติ แต่ยังห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาดจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากกระแสน้ำมีปริมาณมาก และน้ำมีสีออกแดงขุ่น

         ส่วนในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่รุ่งเช้า ยังมีปริมาณฝนตกลงมาต่อเนื่องและมีท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุดของพื้นที่ต่ำและพื้นที่ซ้ำซากที่น้ำไม่สามารถระบายลงสู่ท่อได้

 

         ปิดท้ายที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือเผยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชั่น ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเมียนมาแล้ว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือยังคงมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

         โดยพยากรณ์อากาศภาคเหนือ มีฝนหรือฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และแพร่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง