พ่อสามเณรไม่เชื่อลูกขี้ขโมย เรียกร้องประหารชีวิต 3 ผู้ต้องหาฆ่าฝังศพ

43,977 ครั้ง

02 มิ.ย. 2560

แชร์ข่าวไปที่

จากกรณีที่ได้รับผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากญาติของสามเณรปลื้ม อายุ 17 ปี วัดวังตะวันตก ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่าสามเณรปลื้มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานเกือบ 5 เดือน คาดว่าจะถูกอุ้มฆ่าและซ่อนเร้นอำพรางทำลายศพ โดยมีผู้ต้องสงสัยเป็นพระภิกษุรูปหนึ่งหนึ่งในวัดดังกล่าว ซึ่งในอดีตเคยเป็นไวยาวัจกรวัด และมีเรื่องบาดหมางทะเลาะวิวาทกับสามเณรปลื้มมาก่อน ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวพระรูปดังกล่าวมาเค้นสอบสวนจนให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าสามเณรรูปดังกล่าวจริง พร้อมทั้งนำไปชี้จุดฝังศพในวัดก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการขุดค้นหาศพ และพบศพสามเณรปลื้มตามที่ผู้ต้องหารับสารภาพนั้น

ล่าสุด นายชวน เอกเกียรติกุล อายุ 42 ปี พ่อของสามเณรปลื้ม ได้เดินทางกลับจากนำศพสามเณรปลื้มไปตรวจที่สถาบันนิติเวช รพ.สุราษฏร์ธานี และได้เปิดเผยว่า ตามปกติตนทำงานขับรถบรรทุก 10 ล้อก่อสร้างถนนอยู่ใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจะติดต่อกับสามเณรปลื้มมาตลอด โดยได้ส่งเงินให้เป็นครั้งสุดท้ายช่วงหลังปีใหม่ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก โดยมีญาติ ๆ คอยติดตามหาอย่างต่อเนื่อง และจนทราบเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ว่าสามเณรปลื้มถูกฆ่าฝังศพในวัดวังตะวันตก และจะขุดศพในวันนี้ตนจึงเดินทางมาถึง จ.นครศรีธรรมราชและรับศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.สุราษฏร์ธานี แต่ก็ยังไม้ได้ตรวจเพราะทางแพทย์บอกว่ายังไม่ได้หนังสือหรือเอกสารส่งศพจากพนักงานสอบสวน จึงต้องฝากศพไว้ชั่วคราวและเดินทางกลับมานำใบส่งตัวเดินทางไปอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

ขณะที่กรณีกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าสามเณรปลื้มขโมยเงินจึงต้องฆ่านั้น โดยส่วนตัวตนไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะสามเณรปลื้มไม่มีนิสัยขี้ลักขี้ขโมย แต่เป็นคนที่ชอบพูดจาโผงผาง ซึ่งอาจจะไปรู้เห็นเกี่ยวกับความลับสำคัญบางอย่างภายในวัดจึงถูกฆ่าปิดปากมากกว่า ตนรับไม่ได้และจะไม่ขอพูดถึงกลุ่มฆาตกรใด ๆ ทั้งสิ้น โดยคดีนี้โทษถึงประหารชีวิตก็อยากให้กลุ่มผู้ต้องหารับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตจริงๆ เพราะเป็นพฤติกรรมการกระทำที่เหี้ยมโหดผิดมนุษย์ และยังปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพอีก โดยขอให้คิดดูว่าหากคนตายเป็นลูกหลานของตัวเองจะรู้สึกอย่างไร

แชร์ข่าวไปที่

สามเณร