กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยเอกสารข่าวที่ว่า จากการที่ดีเอสไอได้ดำเนินการปราบปรามกลุ่มขบวนการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบและหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีการนำเข้ารถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร พบว่าบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ได้ระบุราคาสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าที่ผู้นำเข้าต้องแสดงต่อกรมศุลกากรเพื่อเสียภาษีอากร โดยมีการสำแดงราคาต่ำกว่าราคาเป็นจริง โดยเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ ของราคารถยนต์ที่บริษัทผู้ผลิตในประเทศต้นกำเนิดรถยนต์จำหน่าย
จากสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น พบรถยนต์เลี่ยงภาษีที่นำเข้ามาจำหน่ายเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงและมีราคาแพงก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ทีผ่านมา ดีเอสไอได้ดำเนินการขอหมายค้นต่อศาลอาญาเพื่อตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 9 แห่ง โดยสามารถอายัดรถยนต์ได้ 122 คัน ซึ่งรวมแล้วรัฐเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 2,400 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 6 แห่ง โดยสามารถอายัดรถยนต์ได้ 38 คัน พร้อมเอกสารสำคัญในการนำเข้ารถยนต์จาก 6 จุดตรวจค้น ดังนี้
บริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ จำกัด ย่านหลักสี่ กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นพบเอกสารสำคัญในการนำเข้ารถยนต์, โชว์รูมรถยนต์ ยี่ห้อมาเซอราติ ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ จากการตรวจค้น อายัดรถยนต์ได้ 4 คัน , โชว์รูมรถยนต์ ยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ จากการตรวจค้น อายัดรถยนต์ได้ 2 คัน , โชว์รูมรถยนต์ยี่ห้อแอสตัน มาร์ติน ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ อายัดรถยนต์ได้ 2 คัน , บริษัทมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) ย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ พบเอกสารสำคัญในการนำเข้ารถยนต์ ,อาคารมิลเลเนี่ยม ออโต้ ย่านบางคอแหลม กรุงเทพฯ และอาคารโชว์รูมโรลส์-รอยส์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก จากการตรวจค้น อายัดรถยนต์ได้ 30 คัน
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นดังกล่าว สามารถอายัดรถยนต์ได้รวม 38 คัน เป็นรถ 5 ยี่ห้อ คือ มาเซอราติ, โรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, แมคราเรน และเฟอรารี่ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานเอกสารที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบเอกสารที่ได้ทำการยึดมาจากบริษัท เพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีการทำราคาต่ำเข้ามาในลักษณะใดหรือไม่
ที่มา : มติชน