สำนักข่าว mirror รายงานข่าวของ Arya Permana เด็กชายชาวอินโดนีเซียวัย 10 ปี เจ้าของน้ำหนักตัวมากถึง 190 กิโลกรัม ได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคอ้วนหลังความพยายามในการควบคุมอาหารไม่เป็นผล
ก่อนหน้านี้นักโภชนาการใช้วิธีควบคุมอาหาร โดยเน้นให้เขารับประทานผักและผลไม้เป็นหลัก แต่มันก็ไม่ได้ผลดีนักหลังผ่านไป 4 เดือนน้ำหนักตัวของเขาลดลงไปไม่ถึง 10 กิโลกรัม ทำให้พ่อแม่ของเด็กชายรู้สึกหมดหวังและขอร้องให้แพทย์รีบช่วยรักษาโรคอ้วนให้ลูกชายตั้งแต่อายุยังไม่มาก
แพทย์ใช้เวลายาวนานกว่า 2 ชั่วโมงในการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะให้เด็กชายไปเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา รวมทั้งยังลดฮอร์โมนเกรลินเพื่อควบคุมความอยากอาหารให้น้อยลงอีกด้วย
ขณะที่แม่ของเด็กชายเปิดเผยว่า สาเหตุที่ร้องขอให้หมอผ่าตัดช่วยชีวิตลูกชายเป็นเพราะที่ผ่านมาแม้จะควบคุมอาหาร ไม่ให้ลูกดื่มน้ำอัดลม ไม่ได้กินหรือก๋วยเตี๋ยวที่เจ้าตัวชอบ แต่น้ำหนักกลับไม่ลดลงเลย ส่วนตอนนี้ลูกชายของเธอน้ำหนักลดลงไป 20 กิโลกรัมแล้ว แม้จะโล่งใจขึ้นมาบ้างแต่ครอบครัวก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี ทำให้ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเขาจะมีสุขภาพแข็งแรงและมีน้ำหนักเหมือนกับเด็กปกติทั่วๆ ไป
ด้านแพทย์ผู้ทำการรักษาเปิดเผยว่า น้ำหนักตัวที่มากเกินไปของเด็กชายทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ , โรคเบาหวาน , โรคไขมันในเลือดสูง , โรคทางเดินหายใจ และโรคมะเร็ง หากเขาไม่ได้รับการรักษาอย่างทันถ่วงที ก็จะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ โดยขณะนี้แพทย์อยู่ในระหว่างติดตามผลการผ่าตัด พบว่าน้ำหนักตัวของเด็กชายลดลงทุกสัปดาห์ จึงคาดการณ์ว่า 1 ปีหลังจากนี้เขาน่าจะมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 100 กิโลกรัม
สำหรับเด็กชายเจ้าเนื้อคนนี้เคยกินอาหาร 5 มื้อต่อวัน ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าว ปลา เนื้อวัว ซุปผัก และเทมเป้ (ถั่วเหลืองหมัก) นอกจากนี้ยังมีน้ำอัดลมและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีก 5 ซอง แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถจะกินอาหารได้มากเหมือนแต่ก่อนแล้ว เนื่องจากขนาดของกระเพาะที่เล็กลง ทำให้ร่างกายจะมีปฏิกิริยาปฏิเสธอาหารส่วนเกินในทันที