สำนักข่าว The Sun รายงานข่าวน่าตกใจ กรณีหญิงสาวชาวบราซิลวัย 21 ปี ถูกพ่อแท้ๆ คุมขังเอาไว้ในบ้านไม่ให้ติดต่อกับใครนานกว่า 2 ปี เพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวมีคนรัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเซาเปาโลบุกเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวที่อยู่ในสภาพหิวโหยและหวาดกลัวออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง หลังได้รับเบาะแสจากแม่บ้านวัย 25 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง หลังพบความไม่ชอบมาพากลบางอย่างจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
หลังได้รับการช่วยเหลือหญิงสาวยังคงอยู่ในอาการหวาดผวาไม่สามารถให้ปากคำได้ แต่หลังจากตั้งสติได้เธอก็เล่าให้ตำรวจฟังว่า พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก เธออยู่กับแม่จนถึงปี 2006 แม่ก็เสียชีวิตลง ป้าจึงส่งเธอให้มาอยู่กับพ่อ ตอนนั้นเธออายุแค่ 12 ปี แต่พ่อกลับสั่งให้เธอหยุดเรียนและให้อยู่แต่ในบ้าน
กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อนพ่อก็ขังเธอให้อยู่แต่ในห้องไม่ให้ติดต่อกับใครเลย ที่แย่ไปกว่านั้นคือเธอยังถูกสวมกุญแจมือและได้กินอาหารเพียงวันละมื้อ เธอยังถูกซ้อมอย่างทารุณ ถูกแทงหูจนเธอสูญเสียการได้ยิน แต่ไม่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ แม้แต่ตอนนี้เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องเอาบุหรี่มาจี้และตบตีทำร้ายเธอด้วย
ใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้มีแต่แผลเป็นจากการถูกบุหรี่จี้ เนื้อตัวยังสกปรกไม่ได้อาบน้ำมานาน เพราะถูกทิ้งเอาไว้ในบ้านที่ไม่มีน้ำไฟ หลังพ่อของเธอไม่ได้จ่ายบิลมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งจากการสอบถามก็พบว่าพ่อของหญิงสาวอาศัยอยู่ที่อื่น แต่จะแวะเข้ามาหาลูกทุกคืนช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม ก่อนจะออกไปทำงาน
Marcos Nunes อายุ 46 ปี ทำอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ถูกตำรวจตามไปจับกุมตัวถึงที่ทำงาน ก่อนจะถูกตั้งข้อหาลักพาตัวและกักขังหน่วงเหนี่ยวลูกสาว ขณะที่เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำไปเนื่องจากต้องการป้องกันไม่ให้ลูกสาวพลาดท่าไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย เพราะเขาต้องทำงานตอนกลางคืนทำให้ไม่สามารถตามเฝ้าลูกสาวได้ตลอดเวลา จึงตัดสินใจขังลูกเอาไว้ในบ้าน
ด้านตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุจงใจทำร้ายลูกสาวให้เสียโฉม เพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่ดึงดูดใจของเพศตรงข้าม ส่วนผู้เสียหายตอนนี้ถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูสภาพจิตใจ