การจัดงาน ข่าวสดนัมเบอร์วัน เพื่อประกาศตัวเป็นที่ 1 ในโลกออนไลน์ของไทย วันพุธที่ 26 เมษายนนี้ ที่ห้องประชุมสำนักงานข่าวสด ย่านประชานิเวศน์ เป็นการอัพเดตความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์อีกครั้ง ทิ้งช่วง 1 ปีกว่าหลังจากงานมติชน มูฟวิ่ง ฟอร์เวิร์ด เนื่องจากมีสถิติใหม่ที่อยากให้แฟนๆ ผู้อ่านและผู้ชมเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของข่าวสดยินดีร่วมกัน พร้อมติดตาม ติชมและวิจารณ์เพื่อพัฒนางานข่าวให้เติบโตต่อไป
ฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการเครือมติชน กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อบอกกล่าวถึงการที่ข่าวสดทำลายสถิติขึ้นมาเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งของประเทศ
ตำแหน่งที่ 1 นี้ มาจากการสำรวจและเก็บสถิติของทรูฮิตส์ หน่วยงานสาขาของเนคเทค หรือศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ จากการสำรวจของทรูฮิตส์ ในปี 2560 (ค.ศ.2017) ที่ผ่านมาเกือบจะ 4 เดือนนี้ เว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมโดยเฉลี่ยต่อวันมากที่สุดคือ เว็บไซต์ข่าวสด ตัวเลขคร่าวๆ คือ 1,064,000 คนต่อวัน นำหน้าอันดับ 2 อยู่ 16,000 คนต่อวัน และนำอันดับ 3 อยู่ประมาณ 100,000 คนต่อวัน ถ้ารวมตัวเลขข่าวสดและทั้งเครือมติชนแล้ว จะมีผู้อ่านอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.6 ล้านคนต่อวัน จากจำนวนผู้อ่านเว็บไซต์ทั้งประเทศที่เฉลี่ยประมาณ 13-14 ล้านคน แปลว่า ในปัจจุบันทั้งเครือมติชน มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผู้อ่านที่ประมาณร้อยละ 12-13
กรรมการผู้จัดการเครือมติชนยกสถิติอีกส่วนของโซเชียลมีเดีย คือ เฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมยอดนิยมที่สุดในไทย บริษัทเอเจนซี่วิจัยด้านโซเชียลมีเดียชื่อดัง We Are Social เปิดตัวเลขผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในประเทศไทยอยู่ 46 ล้านคน คิดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพฯ 24 ล้านคน ทำให้กรุงเทพฯ ขึ้นแท่นเป็นเมืองที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากเป็นอันดับ 1 ของโลก
สำหรับข่าวสดการถ่ายทอดสดจากเพจหรือไลฟ์สตรีมเพจในเฟซบุ๊ก ตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 มีผู้ชมทะลุหลัก 100 ล้านวิวต่อเดือนไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ตัวเลข 115 ล้านวิว ล่าสุดตัวเลขจากเฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ตัวเลขผู้ชมไลก์และแชร์ไลฟ์ของข่าวสดนั้นอยู่ที่ 98,040,000 วิว หรือคิดเฉลี่ยต่อวันคือ 3.38 ล้านวิวต่อวัน เป็นตัวเลขที่ยืนยันความเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มไลฟ์และคลิปวิดีโอ
ดังนั้นการพัฒนาของข่าวสดจึงเน้นการตอบสนองผู้อ่านและผู้ชมในส่วนนี้ ทั้งการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ข่าวรายวัน และการทำรายการในรูปแบบของโปรดักชั่น เพื่อเพิ่มเป็นวิดีโอ ออน ดีมานด์ให้กับเฟซบุ๊กมากขึ้น
ใครที่เป็นแฟนประจำของข่าวสด มติชน และเว็บอื่นๆ ในเครือคงจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นนี้ในเพจของข่าวสดไปแล้ว นั่นคือมีคลิปวิดีโอรายการเกี่ยวกับข่าวเพิ่มขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา เป็นก้าวแรกของการเดินไปสู่โทรทัศน์บนมือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ทั้งที่เป็นรายการสรุปข่าวเด่นประเด็นฮอต ช่วงเที่ยง แพร่ภาพเวลา 11.30 น. และช่วงค่ำเวลา 19.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ หลังจากนั้นจะต่อด้วยรายการข่าวบันเทิงที่มีสีสันโดยทีมนักข่าวภาคสนามที่เกาะติดใกล้ชิดดาราใน คุยมันส์บันเทิง by khaosod ผู้สนใจเรื่องราวสารคดีเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว Check in Tin Siam - เช็กอินถิ่นสยาม คงเป็นรายการที่น่าจะถูกใจไม่น้อย, รายการ มติชนบทเทคโนโลยีชาวบ้าน นำเสนอเรื่องราวด้านการเกษตร ทั้งพืช ผัก ผลไม้ ปศุสัตว์, รายการ เส้นทางเศรษฐี นำเสนอเส้นทางอาชีพของวงการต่างๆ ทั้งเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ
นอกจากรายการเข้าถึงผู้ชมกลุ่มกว้าง หรือ mass แล้ว ก็ยังมีรายการเจาะกลุ่มเฉพาะด้วย เช่น โชว์รูมประชาชื่น สำหรับผู้ชอบติดตามข่าวรถยนต์ มอเตอร์ไซค์, พระเครื่องคนดัง สำหรับผู้สนใจการสะสมวัตถุมงคล สโมสรกัลบก พาไปรู้จักร้านตัดผมน่าสนใจทุกทิศทั่วไทย รวมถึงคลิปสั้นๆ ในประเด็นที่น่าสนใจจากทีมงาน FEE:D และเมนูอาหารคาวหวานดูน่าอร่อยไปหมด จากทีม Starving Time พันธมิตรของข่าวสด-มติชน
กล่าวได้ว่า ถ้าเข้ามาแวะที่เพจข่าวสดแล้วต้องครบทุกรส สดทุกเรื่อง สมกับสโลแกนของข่าวสด
คำถามว่าข่าวสดเติบโตด้านออนไลน์ขนาดนี้แล้วจะทิ้งสื่อหนังสือพิมพ์ดั้งเดิมหรือไม่ คำตอบแน่ชัดคือ ไม่
สื่อกระดาษที่อยู่ในมือผู้อ่านขณะนี้คือฐานรากของการเติบโตด้านออนไลน์ทั้งที่ผ่านมาและจะเป็นต่อไป ข่าวสดแจ้งเกิดในฐานะหนังสือพิมพ์น้องใหม่ไฟแรงในเครือมติชนเมื่อ 26 ปีก่อน และเติบโตด้วย “ข่าว” ภายใต้สโลแกน ครบทุกรส สดทุกเรื่อง ประกาศศักดาด้วยข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกศรีธนะขัณฑ์ ในปี 2536 ตามด้วยการเปิดโปงพฤติกรรมผิดพระวินัยร้ายแรงของยันตระ
รายงานข่าวทั้งสองคดีดำเนินตั้งแต่ต้นจนความจริงปรากฏกระจ่างแจ้งอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้ปีที่ 5 ของการก่อตั้งข่าวสดทะยานสู่หนังสือพิมพ์ระดับแนวหน้าทั้งความน่าเชื่อถือและยอดขายในเวลารวดเร็ว รากฐานนี้คือส่วนสำคัญให้ข่าวสดทำงานด้านข่าวด้วยจุดยืนที่มั่นคง และสามารถทำงานหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ควบคู่และส่งเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการอุ้มชูของผู้อ่าน
ฐากูร บุนปาน กล่าวว่า จากนี้ไปสิ่งที่ข่าวสด-มติชน และสื่ออื่นๆ ในเครือจะทำต่อไปมี 3 เรื่องหลัก คือ
หนึ่ง พัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น ตอบสนองผู้อ่านผู้ชมได้ตรงเป้ามากขึ้น ไม่ว่าด้านผลิตรายการต่างๆ หรือพัฒนาแนวทางการนำเสนอด้วยสื่อผสม ทั้งหมดยังอยู่บนหลักการว่า เนื้อหาหรือแก่นของข่าวสารสาระที่นำเสนอ ต้องคงความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นธรรม
สอง ขยายตลาดต่อไป เพราะเมื่อพิจารณาจากผู้อ่านเว็บไซต์ 14 ล้านคนจากประชากร 68 ล้านคน และคนที่ลงทะเบียนโซเชียลมีเดีย 40 ล้านคน แปลว่าตลาดยังขยายได้อีกเท่าตัว
สาม คือ พัฒนาบิ๊กดาต้า เพื่อรู้จักผู้อ่านและเสิร์ฟข่าวให้ถูกใจผู้อ่านมากขึ้น เช่นเดียวกับการมีข้อมูลอันเป็นประโยชน์สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ ระหว่างการเชื่อมต่อกับโลกด้วยข่าวเช่นนี้ สิ่งที่ข่าวสดพัฒนาอยู่และจะมุ่งมั่นต่อไป คือการทำลายกำแพงด้านภาษา ด้วยข่าวสดอิงลิช เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ www.khaosodenglish.com ถือเป็นเสริมทัพผู้นำโลกอันดับหนึ่งในโลกออนไลน์
Khaosod English ตั้งเป้าเป็นแหล่งข่าวสำคัญทุกเรื่องของเมืองไทยที่ไม่ได้แค่แปลข่าว แต่มุ่งมั่นเจาะตลาดใหม่ด้วยมาตรฐานการรายงานข่าวระดับโลกท่ามกลางสมรภูมิรบที่ดุเดือดขององค์กรข่าวออนไลน์ Khaosod English ก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากการรายงานข่าวเชิงรุก โดยไม่เพียงหวังเจาะตลาดผู้อ่านชาวต่างชาติ แต่ยังพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้อ่านชาวไทยที่ต้องการเสพข่าวที่ลึก รอบด้าน แบบที่หาอ่านไม่ได้จากที่อื่น ด้วยความกล้ารายงานแบบไม่ประนีประนอม นับจากมีการปรับขยายทีมงานและต้อนรับบรรณาธิการคนใหม่ ทอดด์ รุยซ์ ปลายปี 2558 Khaosod English เติบโตจนสามารถสร้างสถิติมีผู้เข้าถึง (reach) จากทุกช่องทางสูงสุดรวมถึง 6.4 ล้านคนต่อเดือน มีสถิติผู้ชมวิดีโอบนยูทูบ กว่า 2,000 ชั่วโมง ส่วนวิดีโอทาง Facebook ก็มีผู้รับชมไปแล้วรวมกว่า 2.8 ล้านครั้ง
Khaosod English สร้างชื่อในฐานะแหล่งข่าวสำคัญทุกเรื่องของเมืองไทย เป็นแหล่งอ้างอิงของสื่อระดับโลก เช่น The New York Times, Guardian, Telegraph, Los Angeles Times, Russia Today, Japan Times, BBC, CNN บทความประเภทความคิดเห็นได้รับรางวัล Honorable Mention จาก SOPA Awards ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ในทวีปเอเชีย ในปี 2559
ทอดด์ รุยซ์ บรรณาธิการ เปิดเผยถึงแนวคิดเบื้องหลังการทำงานที่ทำให้สามารถสร้างฐานผู้อ่านที่มีความแข็งแรง ในงานแถลงข่าว Khaosod Number One ก้าวต่อไปบนโลกออนไลน์อันดับ 1 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 ว่าเราทำข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง เราเล่าความจริง และเราเคารพผู้อ่าน สำหรับเราผู้อ่านมาเป็นอันดับหนึ่ง ผู้อ่านจึงเชื่อใจและเชื่อในแบรนด์ของเรา
Khaosod English ทำลายภาพจำเดิมๆ ขององค์กรข่าวภาษาอังกฤษในประเทศไทยที่ไม่สามารถแข่งขันเรื่องความเร็วกับองค์กรข่าวภาษาไทยได้ บ่อยครั้งที่รายงานข่าวได้ฉับไวกว่า เช่น การเป็นสื่อแรกที่รายงานเมื่อครั้งระบบเตือนภัยของ Facebook ทำงานผิดพลาด เปิดประเด็นใหม่ที่นำไปสู่เทรนด์ในการรายงานข่าวโดยองค์กรข่าวอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น กรณีทายาทกษัตริย์พม่าไม่พอใจละครเพลิงพระนาง กรณีการเข้าตรวจค้นวัดเสือ จ.กาญจนบุรี หรือผลกระทบของอุตสาหกรรมบันเทิงและโฆษณาในช่วงถวายความอาลัย รวมถึงโดดเด่นในเรื่องการแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับข่าว เช่น กระแสความเข้าใจผิดว่าจะมีดิสนีย์แลนด์มาสร้างที่ประเทศลาว ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับประเด็นที่ถูกละเลยในสื่อส่วนใหญ่ เช่น LGBT และผู้พิการ
นอกจากจุดแข็งเรื่องข่าวการเมืองและสังคมแบบฮาร์ดนิวส์ Khaosod English ยังให้ความสำคัญกับการรายงานข่าวที่เกี่ยวพันกับทุกแง่มุมของชีวิต เกาะติดเรื่องที่กำลังเป็นเทรนด์ อัพเดตกิจกรรมบันเทิง ภาพยนตร์ เพลง ละครเวที ไนท์ไลฟ์ สถานที่กินดื่มแฮงเอาท์ใหม่ๆ ในกรุงเทพฯ ไปจนถึงประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ และทำอย่างจริงจัง เช่น การสัมภาษณ์ผู้ออกแบบสติ๊กเกอร์ Trash Doves และผู้อยู่เบื้องหลังเพจ Pim Thai Mai Dai
ทอดด์ รุยซ์ บอกว่าที่เว็บไซต์พยายามรายงานเรื่องราวให้ครอบคลุมหัวข้อที่หลากหลายเช่นนี้ ก็เพราะ Khaosod English หวังรับหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมทุกเรื่องของเมืองไทยกับโลก คนไทยนับเป็น 0.96% ของประชากรโลก เรากำลังอธิบายเรื่องราวจากประเทศไทยให้กับคนอีก 99.04% ของโลกฟัง ซึ่งนับเป็นความรับผิดชอบที่เรายึดถืออย่างจริงจัง ด้วยความที่เป็นองค์กรข่าวบนแพลตฟอร์มเว็บไซต์ Khaosod English จึงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาประกอบการรายงานข่าว ที่ทำให้ข่าวสนุกและเข้าใจง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook Live, Live Blog, Interactive Map, Story Map, Timeline เทคนิคการเทียบภาพก่อน-หลัง ไปจนถึงวิดีโอ 360 องศา พร้อมเดินหน้าพัฒนาเว็บไซต์เพื่อเชื่อมคุณภาพการรายงานข่าวแบบมืออาชีพยุคเก่าเข้ากับเทคโนโลยีการทำข่าวยุคใหม่ท่ามกลางสมรภูมิออนไลน์ที่ร้อนแรง
ข่าวอื่นๆ