พล.ท.สรรเสริญ แถลงอนุโลมให้นั่งท้ายกระบะ-แคป ได้ไม่เกิน 6 คน เข้มคาดเบลต์ลดความสูญเสีย
logo ข่าวอัพเดท

พล.ท.สรรเสริญ แถลงอนุโลมให้นั่งท้ายกระบะ-แคป ได้ไม่เกิน 6 คน เข้มคาดเบลต์ลดความสูญเสีย

ข่าวอัพเดท : โฆษก รัฐบาล แจง มาตรการคุมเข้มความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ พร้อมให้เวลาปรับตัว ห้ามนั่งท้ายกระบะ คาดเข็มขัดแคปหลัง ก่อนบังคับใช้ กม.จริงจ รัฐบาล,กระบะ,แคป,ลด,อุบัติเหตุ,สูญเสีย

59,007 ครั้ง
|
06 เม.ย. 2560
โฆษก รัฐบาล แจง มาตรการคุมเข้มความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ พร้อมให้เวลาปรับตัว ห้ามนั่งท้ายกระบะ คาดเข็มขัดแคปหลัง ก่อนบังคับใช้ กม.จริงจัง ยันไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ประชาชน
 
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2560  พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลอยากสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน กรณีการบังคับใช้กฎหมายและการผ่อนปรนเป็นบางกรณี สำหรับการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ ดังนี้
 
1. รัฐบาลไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ประชาชน แต่จำเป็นต้องมีมาตรการลดอุบัติเหตุ แต่เมื่อประชาชนยังไม่พร้อม รัฐบาล จะเร่ง รณรงค์สร้างความเข้าใจ และให้เวลาปรับตัวอีกระยะหนึ่ง 
 
2. เจ้าหน้าที่จะยังคงบังคับใช้กฎหมายด้วยการ จับปรับ ในกรณีของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้าที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่จะอนุโลม ตักเตือน ผู้ที่ นั่งเบาะหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างถูกต้อง 
 
3. รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ รถโดยสารประจำทาง ต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง
 
4. สำหรับรถกระบะ อนุโลมให้นั่งในแคป และในท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน แต่ห้ามนั่งบนขอบกระบะหรือฝาปิดท้ายรถ 
 
5. เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา หรือใช้ความเร็วเกินกำหนด ขับรถหวาดเสียว หรือแซงในที่คับขัน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง 
 
6. นายกฯ สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากประชาชน หากผู้ใดพบเห็น ขอให้ถ่ายคลิปและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที 
 
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการปฏิบัติงาน โดยขอความร่วมมือให้คนไทยช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสม มุ่งเน้นที่การสร้างจิตสำนึก และความรับผิดชอบของทุกคน เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน จากอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนน ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก
 
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง