ตร.ยันไม่ได้จัดฉากยึดอาวุธสงครามเครือข่าย โกตี๋ ลั่นทำตามหลักฐาน
logo ข่าวอัพเดท

ตร.ยันไม่ได้จัดฉากยึดอาวุธสงครามเครือข่าย โกตี๋ ลั่นทำตามหลักฐาน

ข่าวอัพเดท : รองโฆษก ตร. ยืนยัน การตรวจยึดอาวุธเครือข่ายโกตี๋ ทำตามหลักฐานการสอบสวน ไม่ได้เป็นการจัดฉาก พร้อมยืนยันพบข้อมูลการสะสมอาวุธตั้งแต่ชุม โกตี๋,อาวุธ,สงคราม,เสื้อแดง,หลักฐาน,ตรวจค้น

8,148 ครั้ง
|
20 มี.ค. 2560
รองโฆษก ตร. ยืนยัน การตรวจยึดอาวุธเครือข่ายโกตี๋ ทำตามหลักฐานการสอบสวน ไม่ได้เป็นการจัดฉาก พร้อมยืนยันพบข้อมูลการสะสมอาวุธตั้งแต่ชุมนุมใหญ่ทางการเมืองที่ผ่านมา และมีการเติมอาวุธเพิ่มต้นเดือนมีนาคมเตรียมลอบทำร้ายบุคคลสำคัญทางการเมืองในประเทศ
 
พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงความคืบหน้าในการดำเนินการทางคดี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันบุกเข้าตรวจค้น 9 จุดสำคัญ ในพื้นที่ 7 จังหวัด ของเครือข่าย "โกตี๋ แดงปทุม" ยืนยัน เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้จัดฉากกรณีตรวจยึดอาวุธสงครามของเครือข่าย โกตี๋ ย้ำว่าเป็นการทำงานจากการข่าว ที่ตรวจสอบพบความเคลื่อนไหว การสะสมอาวุธ เพื่อเตรียมลอบสังหารผู้นำประเทศจริง โดยมีหลักฐานเป็นคำพูดขั้นตอนการเตรียมการ รวมถึงการซ่องสุมกำลัง ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมกับย้ำเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้รังแกใคร โดยเฉพาะจุดคูคต ลำลูกกา ที่เคยเป็นที่พักของนายโกตี๋ ซึ่งสามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้จำนวนมากนั้น จุดนี้พบว่า มีการสะสมอาวุธตั้งแต่การชุมนุมใหญ่ทางการเมือง และนำอาวุธเข้ามาเติมเพิ่ม ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตรวจสอบที่มาของอาวุธทั้งหมดที่ตรวจยึดไว้ และตรวจสอบกลุ่มที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงของเครือข่ายนี้ แม้นายโกตี๋จะชัดเจนว่าสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ก็ต้องตรวจสอบและหาหลักฐานและความเชื่อมโยงให้ได้ นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบว่าโ นายโกตี๋ ยังอยู่เบื้องหลังในการปลุกระดมประชาชนกดดันขณะ เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นวัดพระธรรมกายจึงทำให้การทำงานของตำรวจล่าช้าและเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 9 ในเป้าหมายที่เข้าตรวจค้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อขยายผล ซึ่งขอย้ำว่าการปฏิบัติการนี้ มีการรายงานความเคลื่อนไหวให้นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ทราบความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ขณะที่การติดตามตัวนายโกตี๋ มาดำเนินคดี ก็จะดำเนินการติดต่อประสานงานให้ประเทศเพื่อนบ้านดำเนินการจับกุม ส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง