รวบแล้วอดีตนายก อบต.พานทอง ผู้ต้องหาลั่นไกสังหารสาว อบต.บึงชำอ้อ สารภาพแค้นผู้ตายซึ่งเป็นอดีตภรรยาแอบไปจดทะเบียนสมรสกับชายอื่น
ความคืบหน้าติดตามมือปืนจ่อยิงนางสาววีรญาภา งามวิลัย หรือเปิ้ล หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน อบต.บึงชำอ้อ เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับนายทวีวงศ์ ทองยืน หรือ"นายกหมึก"อายุ 55 ปี อดีตนายก อบต.พานทอง จ.ชลบุรี และสามีเก่าของผู้ตาย พร้อมลูกน้องคนสนิทตามภาพกล้องวงจรปิดตามประจักษ์พยานต่างๆ ที่ทางตำรวจมีอยู่ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ล่าสุดตัวได้รับคำยืนยันจาก พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ว่าจับกุมตัวได้แล้วหลังนายทวีวงศ์หนีไปกบดานที่ไร่แห่งหนึ่ง ภายใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี การสืบสวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายวิชัย ทองยืน น้องชายนายทวีวงศ์ ผู้ต้องหา น่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของพี่ชาย ชุดสืบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม จึงไปสอบปากคำหลายชั่วโมง จนสุดท้ายยอมรับว่านายทวีวงศ์ หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในไร่ภายใน อ.ท่าม่วง หลังจับกุมตัวได้แล้วเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.ปทุมธานี ได้ควบคุมตัวไปขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนอยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมตรวจสอบย้อนหลังไปถึงคดีมือปืนสไนเปอร์ ยิงนายสุภาพ เขียวชอุ่ม นายก อบต.บึงทองหลาง จ.ปทุมธานี สามีเก่าของสาว อบต. เมื่อปี 2554 ว่ามือฆ่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ มีรายงานว่าชุดสืบสวนกำลังจัดชุดติดตามคนสนิทของนายกหมึก ซึ่งเป็นมือปืนลั่นไกสังหารนางสาววีรญาภา เบื้องต้นให้การว่า แม้จะหย่ากันแล้วก็ตาม แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ก็ยังไปมาหาสู่กันและส่งเสียเงินเลี้ยงดูผู้ตายมาโดยตลอด และเมื่อทราบว่าแอบไปจดทะเบียนสมรสกับชายอื่น จึงเกิดความแค้นและวางแผนก่อเหตุดังกล่าว
หลักฐานสำคัญในการติดตามตัวนายทวีวงศ์คือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ด่านธัญบุรี ถนนสายกาญจนาพิเศษ (มอเตอร์เวย์) ตรงจุดนี้มีกล้อง 2 ตัว ที่จับภาพได้ ตัวแรกจับภาพขณะที่นายทวีวงศ์กำลังขับรถเข้าช่องเก็บเก็บเงินด่านธัญบุรี
กล้องตัวที่ 2 ติดตั้งอยู่ภายในตู้เก็บเงินสาดกล้องออกมาที่ช่องผ่านทาง จับภาพรถกระบะสีดำและใบหน้าของนายทวีวงศ์ชัดเจนโดยเขาใส่แว่นตาดำ เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็ขับรถออกจากจุดนี้ไป ก่อนหน้านี้ตำรวจได้เชิญนางบานเย็น งามวิลัย แม่ของผู้ตายมาสอบปากคำ นางบานเย็นยืนยันชี้รูปจากการดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นนายทวีวงศ์แน่นอน เนื่องจากจำแว่นตาที่นายทวีวงศ์ใส่ได้ เพราะเป็นแว่นที่ลูกสาวซื้อให้นายทวีวงศ์ ในราคา 3 หมื่นกว่าบาท นี่จึงเป็นหลักฐานสำคัญประกอบกับสำนวนการสอบสวนรวมทั้งพยานหลักฐานที่มี ทำให้ จนท.ยื่นต่อศาลจังหวัดธัญบุรีขออนุมัติหมายจับและจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการสืบสวนของ จนท.ระบุว่า นายทวีวงศ์ ใช้รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีดำ ทะเบียน ขก-4865 ชลบุรี ขับหลบหนีไปทาง จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสืบสวนทราบว่าหลังเกิดเหตุนายทวีวงศ์ได้ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.อยุธยา แล้วเดินทางหาไปหาน้องชายคือนายดำรงค์ ทองยืน ที่ ต.มหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะขอเปลี่ยนนำรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ทะเบียน บป-2313 ลพบุรี ของนายดำรงค์เพื่อนำไปใช้ โดยไม่ยอมบอกสาเหตุว่าทำไมต้องมาขอเปลี่ยนรถ ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น.(14 มี.ค.) นายดำรงไปขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.มหาราช เพื่อเป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย นอกจากนี้พบเบาะแสว่านายทวีวงศ์ไปจอดรถซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่ในช่วงเช้าเจ้าตัวไปเบิกเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี โดยนำสมุดบัญชีธนาคารไปขอเบิกเงินจากที่หน้าเคาท์เตอร์ประมาณ 3 แสนบาท
ส่านรถกระบะสีดำ ทะเบียน ขก-4865 ชลบุรี ที่นายทวีวงศ์ ใช้เป็นพาหนะนำไปก่อเหตุซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะเกิดเหตุและขับขับหลบหนี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดมาตรวจสอบจอดไว้ที่ สภ.คลองห้า
ล่าสุดพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผล ไปสู่ผู้ร่วมขบวนการอีกประมาณ 3-4 คน ซึ่งมีทั้งมือปืน และผู้ร่วมก่อเหตุ จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดมาจากเรื่องส่วนตัว แต่หลังจากนี้ จะต้องสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม