เด็ก 8-9 ขวบสองคน พังห้องเรียนในโรงเรียน จ.ศรีสะเกษยับ พ่อแม่ร่ำไห้ยอมจ่ายค่าเสียหายกว่า 40,000 บาท
logo ข่าวอัพเดท

เด็ก 8-9 ขวบสองคน พังห้องเรียนในโรงเรียน จ.ศรีสะเกษยับ พ่อแม่ร่ำไห้ยอมจ่ายค่าเสียหายกว่า 40,000 บาท

90,617 ครั้ง
|
15 มี.ค. 2560
     เมื่อเวลา 19.30 น. พ.ต.อ.เศวต เศวตวิวัฒน์ ผกก.สภ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากคณะครูโรงเรียนบ้านหนองม่วงหนองแต้ ว่ามีคนร้ายบุกเข้าไปพังทำลายทรัพย์สินภายในห้องเรียนชั้น ป.6 มีทรัพย์สินในห้องเรียนเสียหายยับเยิน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ไปทำการตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า เป็นอาคารเรียนชั้นเดียวยกพื้นสูง ประมาณ 60 ซม.และจากการตรวจสอบภายในห้องเรียนชั้น ป.6 พบว่า ทรัพย์สินซึ่งส่วนมากเป็นหนังสือเรียน คอมพิวเตอร์ และสื่อการเรียนการสอนถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเต็มห้อง และมีการนำเอาหมึกคอมพิวเตอร์มาทาตามบริเวณต่าง ๆ ลักษณะคล้ายกับเป็นการกระทำของเด็กหรือคนวิกลจริต 
 
     จากการสอบสวนเบื้องต้น ในห้วงเวลาดังกล่าวนี้เป็นช่วงที่ทางโรงเรียนพากันไปทัศนศึกษานอกพื้นที่ และไม่มีใครอยู่เฝ้าโรงเรียน จึงทำให้มีคนร้าย คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 2 คน งัดหน้าต่างห้องเรียนเข้ามาภายในห้อง และทำลายทรัพย์สินพังเสียหายยับเยิน 
 
      แต่ต่อมา จากการสืบสวนแล้วของเจ้าหน้าที่ พบว่า คนร้ายเป็นเด็กชาย 2 คน คือ ด.ช.เอ อายุ 8 ขวบ และ ด.ช.บี อายุ 9 ขวบ เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.3 และ ป.4 ของ ร.ร.แห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปทำควบคุมตัว พร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนได้รับทราบ และได้ไปทำการสอบสวนที่ สภ.พยุห์ 
 
     ทั้งนี้ เด็กทั้งสองคนได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการงัดหน้าต่างเข้าไปรื้อคนทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนจริง เนื่องจากต้องการเล่นสนุกตามประสาเด็ก โดยไม่คิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำผิด ทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งทางโรงเรียนได้ประมาณการค่าเสียหายแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 60,000 บาท ซึ่งเมื่อพ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนได้รับทราบแล้ว ถึงกับร่ำไห้ออกมา เนื่องจากแม่ทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานทำน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ส่วนพ่อไม่ได้ทำงานอะไร ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ ต่อมา ได้มีการเจรจาต่อรองกันจนเหลือค่าเสียหายเพียง 40,000 บาท ซึ่งพ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนได้ยอมรับชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามกฎหมาย
 
     โดย พ.ต.อ.เศวต ผกก.สภ.พยุห์ กล่าวว่า ความผิดของเด็กทั้งสองคนนั้นเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความกันได้ เมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงค่าเสียหายกันได้ ก็ไม่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด