ตร.เรียก ฟิล์ม รัฐภูมิ รับทราบข้อหาทำธุรกิจอีมันนี่ไม่ได้รับอนุญาต 3 มี.ค.

7,464 ครั้ง

23 ก.พ. 2560

แชร์ข่าวไปที่

ตำรวจเรียกฟิล์ม รัฐภูมิ รับทราบข้อหาทำธุรกิจอีมันนี่ โดยไม่ได้รับอนุญาต 3 มีนาคม เตรียมขยายผลเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ส่วน สคบ.ชี้บริษัทต้องหยุดให้บริการ

พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมชุดสืบสวนและสอบสวน รวมทั้งผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเข้าร่วมประชุมคลี่คลายคดี ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องนักแสดงชื่อดังพร้อมพวก เปิดบริษัทเพย์ออลกรุ๊ป จำกัด ที่ให้บริการเงินอีเล็กทรอนิกส์ หรืออีมันนี่ ในการชำระค่าสินค้าและบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นครั้งที่ 4

โดยพลตำรวจตรีชวลิต แสวงพืชน์ ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้กรรมการบริษัท 5 คน รวมทั้งนิติบุคคลมารับทราบข้อหา ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต ในวันที่ 3 มีนาคม 2560 เวลา 13.00 น. ที่ ปอศ. ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจไม่ถูกต้อง ส่วนจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่มีสมาชิกของบริษัท เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นจึงพบเพียงความผิดเกี่ยวกับการให้บริการเพียงอย่างเดียว

ด้านนายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการฝ่ายช่วยงานบริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า การจัดตั้งบริษัทอีมันนี่ จะต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และกำหนดวันเวลาคืนผลตอบแทนให้กับสมาชิกอย่างชัดเจน และเมื่อได้รับเงินจากสมาชิกแล้วจะต้องมีการจัดเก็บ และทำบัญชีอย่างรัดกุม แต่พบว่าบริษัทเพย์ออล มีการฝ่าฝืนทั้งหมด จึงได้เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน แต่ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบ มีเพียงบริษัทเพย์ออลที่เข้าข่ายความผิดเพียงบริษัทเดียว แต่หากประชาชนมีเบาะแสหรือพบบริษัทรายใด ที่เข้าข่ายความผิดสามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 1213

ด้าน นายณัชพัทร ขาวแก้วแตก ตำแหน่งนิติกรชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เดิมทีบริษัทเพย์ออลกรุ๊ป จดทะเบียนในนามบริษัทนาน่าคอเปอร์เรชั่นจำกัด ซึ่งขออนุญาตเป็นบริษัทขายตรง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง รวม 6 รายการ ตั้งแต่ปี 2555 ก่อนจะมาขออนุญาต กับกรมการค้าภายใน และ สคบ. เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเพย์ออลกรุ๊ปจำกัด เมื่อปี 2558 พร้อมปรับแผนการทำงานเป็นบริการอีมันนี่ ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาต แต่กลับให้บริการกับผู้บริโภค จึงเข้าข่ายกระทำความผิด และได้เชิญกรรมการและนิติบุคคลมาเปรียบเทียบเสียค่าปรับ รายละ 3 แสนบาท รวมเป็นเงิน 1 ล้าน 8 แสนบาท ทั้งนี้สำหรับประชาชน ที่ต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิก หรือยกเลิกสินค้า สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบ ซึ่งทางบริษัท จะต้องจ่ายค่าสมาชิกคืนให้ภายใน 15 วัน ส่วนผู้บริโภคสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสินค้า ซึ่งหลังจากนี้ หากพบว่าทางบริษัทดังกล่าวมีการโฆษณา หรือโฆษณาที่ยังปรากฏในเว็บไซต์หรืออินเตอร์เน็ต จะเข้าข่ายความผิดซ้ำ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีอีก 1 ข้อหา โดยถือว่าขณะนี้บริษัทเพย์ออย ได้หยุดบริการเกี่ยวกับธุรกิจอีมันนี่แล้ว

แชร์ข่าวไปที่

อีมันนี่

หมายเรียก

ตำรวจ

ฟิล์ม

รัฐภูมิ