กฟผ.ยันถ่านหินทางเลือกพลังงานผลิตไฟฟ้ามั่นคงที่สุด
logo ข่าวอัพเดท

กฟผ.ยันถ่านหินทางเลือกพลังงานผลิตไฟฟ้ามั่นคงที่สุด

ข่าวอัพเดท : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยันถ่านหิน เป็นทางเลือกพลังงานผลิตไฟฟ้ามั่นคงที่สุด พร้อมขอให้มั่นใจเทคโนโลยีสะอาดที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล กฟผ,กระบี่,ถ่านหิน,ไฟฟ้า

3,525 ครั้ง
|
22 ก.พ. 2560
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยันถ่านหิน เป็นทางเลือกพลังงานผลิตไฟฟ้ามั่นคงที่สุด พร้อมขอให้มั่นใจเทคโนโลยีสะอาดที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล
 
นาย สหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ในฐานะ โฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ย้ำเหตุผลในการผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน ว่าเป็นทางเลือกพลังงานผลิตไฟฟ้าที่เหมาะสมและมั่นคงที่สุด ทั้งต้นทุนราคาที่ต่ำกว่าเชื้อเพลิงอื่น ทรัพยากรสำรองที่มีอยู่ในโลกเป็นระยะเวลา 100 ปี และแม้จะเป็นพลังงานสกปรก แต่ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีสะอาด ตามมาตรฐานสากลที่สามารถกำจัดมลภาวะ อาทิ ฝุ่นละออง ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไอปรอทได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
ขณะที่ทางเลือกอื่นที่มีการเสนอ เช่น การใช้ก๊าซ มีข้อจำกัดด้านทรัพยากร ฝั่งอ่าวไทยจะหมดภายใน 6 ปีหากไม่สำรวจเพิ่ม และนำเข้าจากเมียนมาร์ จะหมดอายุสัมปทานในปี 2570 และมีแนวโน้มจะไม่ต่อ ซึ่งปัจจุบันการใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้ามีมากถึง 70% ดังนั้นหากส่วนนี้หายไปกำลังการผลิตก็จะหายไปด้วย ขณะที่ทางออกหากใช้ทางเลือกนี้ คือการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว LNG แต่มีปัจจัยราคาที่สูงกว่าก๊าซในอ่าวไทย 2 เท่า และยังอิงกับราคาน้ำมันซึ่งมีความผันผวน 
 
ส่วนพลังงานหมุนเวียน ถือเป็นพลังงานสะอาด แต่ในแง่การผลิตไม่แน่นอน 24 ชั่วโมง อย่างแสงอาทิตย์ ผลิตได้เฉพาะกลางวัน 4-5 ชั่วโมง  ลมผลิตได้เฉพาะช่วงค่ำ ที่สำคัญอาจต้องใช้เงินลงทุนสูง และ สุดท้าย การทำเสาส่งเพิ่มจากภาคกลางลงใต้ จะมีระยะทางยางเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ ขณะที่กำลังการผลิตอยู่ 500-600 เมกะวัตต์แม้อนาคตจะมีแผนพัฒนาแต่ก็มีศักยภาพสูงสุดอยู่ที่ 800-900 เมกะวัตต์ แตกต่างจากเป้าหมายรองรับความต้องการใช้ไฟในพื้นที่ภาคใต้ ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ พีดีพี ปี 2558-2579 อยู่ที่ 2800 เมกะวัตต์ 
 
สำหรับแผนพีดีพี ฉบับล่าสุด ตั้งเป้ากระจายสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้า ด้วยการลดก๊าซธรรมชาติ จาก 65% เป็น 37% เพิ่มถ่านหินจาก 19% เป็น 23% ควบคู่กับพลังงานหมุนเวียน 7% เป็น 18% 
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง