ปลัดสธ. กำชับส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง-ป่วยโรคเรื้อรัง ในพื้นที่น้ำท่วม

1,258 ครั้ง

11 ม.ค. 2560

แชร์ข่าวไปที่

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับทุกพื้นที่น้ำท่วม ส่งเจ้าหน้าที่ อสม. เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทุกคนต้องไม่ขาดยา ทั้งนี้ขณะนี้โรงพยาบาลในเขตภาคใต้เปิดบริการได้ตามปกติ เหลือเพียงที่โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อยู่ระหว่างการกู้ระบบไฟฟ้าและประปา โดยจะเร่งให้เปิดบริการได้โดยเร็ว

นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับให้โรงพยาบาลในเขตน้ำท่วมทุกแห่ง ส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงในความรับผิดชอบให้ครบทุกคน รวมทั้งดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังไม่ให้ขาดยา ในพื้นที่ที่เข้าถึงยากลำบากให้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ หน่วยทหาร องค์กรปกครองท้องถิ่น เอกชน เข้าร่วมดำเนินการ เพื่อดูแลประชาชนให้ดีที่สุด

ในส่วนของโรงพยาบาลบางสะพาน สถานการณ์วันนี้ น้ำภายนอกโรงพยาบาลเริ่มลดแล้ว ส่วนในบริเวณโรงพยาบาลน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ด้านหลังโรงพยาบาลสูง 1 เมตรท่วมบ้านพัก แฟลตของเจ้าหน้าที่ต้องย้ายมาพักที่ ตึก 6 ชั้น ผู้ป่วยทั้งหมดถูกส่งไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว โดยโรงพยาบาลอยู่ระหว่างการกู้ระบบประปา ไฟฟ้า ซ่อมแซมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทหารจากกองทัพอากาศจำนวน 40 นาย มาช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกให้บริการประชาชน 3 จุด คือ ที่ โรงพยาบาลบางสะพานวิทยา เปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม มีทีมแพทย์สนามจากโรงพยาบาลลาดบัวหลวงและสระบุรีสนับสนุนการทำงาน จุดที่ 2 ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่อนทอง และที่วัดธงชัยธรรมจักร บ้านกรูด

โดยในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการนำของปลัดจังหวัดฯ ในฐานะผู้บัญชาการพื้นที่วิกฤต อ.บางสะพาน จะนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และอาสาสมัครภาคประชาชน เข้าช่วยเหลือประชาชนในจุดวิกฤต เช่น การกู้โรงพยาบาลให้กลับมาบริการประชาชนได้

ทั้งนี้ มีสถานบริการที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้น 110 แห่ง อยู่ระหว่างกู้ระบบน้ำและไฟฟ้า 1 แห่ง คือโรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีทีมแพทย์ที่ออกหน่วยบริการ 117 ทีม ร่วมกับทีมแพทย์พยาบาลเคลื่อนที่ (MERT และ Mini MRET) จากจังหวัดนอกพื้นที่ รวม 36 ทีม มีผู้มารับบริการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ 18,348 คน ส่วนใหญ่พบโรคน้ำกัดเท้า โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง ปวดเมื่อยตามร่างกาย และยังไม่พบโรคระบาด ส่วนด้านสุขภาพจิต พบผู้ประสบภัยมีภาวะเครียดเล็กน้อย จึงให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติตัว

แชร์ข่าวไปที่