ทหารเรือเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่องที่ปากคลองฉุกเฉิน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง คาดมีมวลน้ำ 1,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้เวลาระบายอย่างน้อย 15-20 วัน
วันนี้ (9 ม.ค.60) กำลังทหารเรือ จากกรมอู่ทหารเรือธนบุรี กำลังเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง ที่ลำเลียงมาจากเรือหลวงอ่างทอง ขึ้นรถบรรทุกจากท่าเรือน้ำลึกสงขลา ที่บริเวณสะพานข้ามคลองระบายน้ำฉุกเฉิน ใกล้กับซีเค รีสอร์ท อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังออกสู่ทะเลอ่าวไทยโดยตรง
นาวาเอก ปรัชญา เลาะหนับ ผู้อำนวยการกองโรงงานอู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ เปิดเผยว่า เรือหลวงอ่างทองได้บรรทุกเรือผลักดันน้ำจากกรมอู่ทหารเรือธนบุรีจำนวน 20 ลำไปเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกสงขลา จากนั้นได้ลำเลียงขึ้นรถบรรทุกมายังที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่อำเภอปากพนัง ซึ่งคาดว่าภายในบ่ายวันนี้ (9 ม.ค.60) จะสามารถติดตั้งแล้วเสร็จ พร้อมเดินเครื่องได้ทันที ส่วนจะปฏิบัติงานกี่วันนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของจังหวัด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการลำเลียงเรือผลักดันน้ำทางรถบรรทุกจากกรมอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้าไปติดตั้งที่ประตูระบายน้ำคลองชะอวด-แพรกเมือง อ.หัวไทร จำนวน 30 เครื่อง ซึ่งกำลังเดินเครื่องระบายน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยอย่างเต็มที่
ด้านนาวาเอก ทินนะลักษณ์ รองผู้อำนวยการกองพัฒนาบริหารอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า ในฐานะหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้ามีเรือผลักดันน้ำ 100 เครื่อง ได้ส่งมาช่วยผลักดันน้ำที่นครศรีธรรมราชแล้วจำนวน 30 เครื่อง ขณะนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ร้องขอเพิ่มเติมไปอีก 40 เครื่อง เพื่อนำไปติดตั้งในพื้นที่ตำบลปากนคร ซึ่งหลังจากติดตั้งเรือผลักดันน้ำที่กำลังดำเนินการอยู่นี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รถบรรทุกจะวิ่งตีรถเปล่าขึ้นไปบรรทุกเรือผลักดันน้ำตามที่จังหวัดร้องขออีก 40 เครื่องแล้วลงมาในทันที
นายกรณรมย์ วรรณกุล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังล่าง กล่าวว่า มวลน้ำจากพื้นที่โซนภูเขาได้ไหลลงมาถึงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังแล้ว ซึ่งทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่าช่วงต้นเดือนธันวาคมประมาณ 20 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้การระบายน้ำนานขึ้น ใช้เวลาประมาณ 15-20 วัน ซึ่งการที่กองทัพเรือได้สนับสนุนเรือผลักดันน้ำจำนวน 50 เครื่องมาช่วยผลักดันน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยโดยตรงนั้นจะช่วยให้การระบายน้ำเร็วขึ้นประมาณ 15 % ในขณะที่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ทั้งอำเภอหัวไทร เชียรใหญ่ ปากพนัง เฉลิมพระเกียรติ และ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระดับน้ำยังคงท่วมสูง ประชาชนได้ขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่าไว้ที่สูง ส่วนถนนสายนครศรีธรรมราช-ปากพนัง บริเวณทางเข้าวัดฝ่าพระบาทราษฎร์บำรุง หมู่ที่ 7 ต.คลองกระบือ อ.ปากพนัง น้ำท่วมถนนด้านขาเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราชระยะทางประมาณ 500 เมตร ยังสามารถใช้ได้ 1 ช่องทาง จึงขอให้ผู้ขับขี่รถได้ใช้ความระมัดระวัง ขอให้ขับรถในช่องจราจรชิดเกาะกลางถนน
+ อ่านเพิ่มเติม