เมื่อเวลา 15.30 น. ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่งใน หมู่ 9 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ภายในแบ่งเป็นสี่ห้อง ที่ห้องขวาสุดพบศพนายการุณ แซ่ฮึง อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนหงายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องในสภาพมีเลือดออกที่หู จมูก และปาก ที่ข้อมือข้างซ้ายมีรอยไหม้เกรียมรอบวงแขน ที่ข้อมือข้างขวาสวมใส่กำไลข้อมือเอาไว้โดยมีสายไฟที่ปลอกเหลือเพียงเส้นทองแดงพันอยู่ ซึ่งปลายสายอีกข้างหนึ่งเสียบคาอยู่ที่ปลั๊กพ่วงซึ่งเสียบคาอยู่กับปลั๊กไฟ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิทำการถอดปลั๊กไฟออกนำศพออกมาตรวจสอบรอยลอยที่ด้านนอก ซึ่งจากการตรวจสอบตามร่างกายโดยละเอียดไม่พบร่องลอยหรือบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการสอบถามนายชำนิ พรมนัส อายุ 33 ปี พ่อค้าขายของซึ่งเช่าห้องในบ้านของผู้ตายพักอาศัย ทราบว่า ผู้ตายมีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้จ่าย และชอบมาบ่นให้ตนฟังว่าอยากตาย เมื่อสองถึงสามวันที่ผ่านมา ตนไม่เห็นผู้ตายออกมาจากห้องแต่ไฟภายในห้องเปิดอยู่ ตนก็ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ได้มีลูกน้องเก่าของผู้ตายมาเคาะประตูเรียกผู้ตายอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจึงได้เดินทางกลับไป
จนกระทั่งวันนี้ตนก็ยังไม่เห็นผู้ตายออกจากห้องเช่นเดิม เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับผู้ตาย จึงตัดสินใจงัดประตูห้อง จึงทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องข้างเตียงนอน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้านนางสาวปราณี ขจรศักดิ์กุล อายุ 55 ปี ญาติของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน และพักหลังมีการไอออกมาเป็นเลือด ตนและญาติคนอื่นได้แนะนำให้ผู้ตายไปหาหมอ แต่ผู้ตายไม่ยอมไปและยังชอบพูดด้วยว่าอยากตาย โดยในเย็นวันพุธที่ผ่านมาตนเห็นผู้ตายออกมาซื้อข้าว หลังจากนั้นก็ไม่เห็นออกมาจากห้องอีกเลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจเกิดอาการเครียดที่ป่วยเรื้อรังเป็นวัณโรครักษาไม่หายแถมอาการยังทรุดลงไปอีก จึงได้ตัดสินใจใช้สายไฟที่ปลอกเปลือกออกแล้วเหลือเพียงสายทองแดงพันกับกำไลข้อมือทั้งสองข้างเกิดเปิดสวิทที่ปลั๊กพ่วงให้กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านตัวเองจนกระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม