เจ้าของโรงแรมเริ่มทุบสระว่ายน้ำรุกเขตทะเลแล้ว เปิดใจยกเลิกธุรกิจถาวร คืนที่ให้เจ้าของเดิม
logo ข่าวอัพเดท

เจ้าของโรงแรมเริ่มทุบสระว่ายน้ำรุกเขตทะเลแล้ว เปิดใจยกเลิกธุรกิจถาวร คืนที่ให้เจ้าของเดิม

10,818 ครั้ง
|
22 พ.ย. 2559
     จากกรณีที่มีประชาชนได้ร้องเรียนว่า สระว่ายน้ำของโรงแรมโกลเด้นคลิปเฮาส์ บริเวณเขาพระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตทะเล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเมืองพัทยา ได้ตรวจสอบพบว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และรวบรวมหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษไปยัง สภ.เมืองพัทยา พร้อมสนธิกำลังหน่วยงานผู้เกี่ยวของลงพื้นที่ตรวจสอบ และควบคุมตัว นายวรรธนันท์ ยิ้มละม้าย อายุ 64 เจ้าของโรงแรม ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนโรงแรม โดย นายวรรธนันท์ ยิ้มละม้าย ได้ยื่นหลักทรัพย์ 40,000 บาท เพื่อขอประกันตัวชั่วคราว นั้น
 
     ขณะที่นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ทหาร และฝ่ายปกครองได้เดินทางไปยังโรงแรมดังกล่าว เพื่อติดประกาศคำสั่งจากจากเมืองพัทยา โดยมีคำสั่งให้ให้ระงับการใช้อาคารหรือปิดกิจการชั่วคราว จนกว่าจะได้ใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เนื่องทางโรงแรมได้ขออนุญาตใช้เป็นอาคารที่พักอาศัยรวม แต่กลับใช้เป็น กิจการประเภทโรงแรม ส่วนสระว่ายน้ำที่ก่อสร้างลุกล้ำลำน้ำและที่สาธารณะ ให้รื้อถอนภายใน 15 วัน นับจากปิดประกาศ
 
     ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไร้ซึ่งบรรดานักท่องเที่ยวและแขกที่มาเข้าพัก มีเพียงพนักงานกำลังเก็บข้าวของเครื่องใช้ เนื่องจากโรงแรมได้ปิดกิจการลงชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ส่วนบริเวณสระว่ายน้ำที่เป็นปัญหาสร้างรุกล้ำเขตทะเล พบว่ามีพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังใช้ค้อนขนาดใหญ่ทุบทำลายขอบสระบางส่วนเท่าที่สามารถทำได้ พร้อมใช้เครื่องสูบน้ำออกจากสระ
 
     โดยนายวรรธนันท์ ยิ้มละม้าย ในฐานะตัวแทนโรงแรม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริเวณนี้ถูกสร้างเป็นบ้านพัก ก่อนเจ้าของเดิมจะสร้างอพาร์ทเม้นขึ้นมาประมาณปี 2538 -2539 พร้อมกับสระว่ายน้ำ จนมาปี 2550 เริ่มมาประกอบเป็นธุรกิจ ซึ่งทางผู้บริหารเก่าอาจจะยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจประเภทอื่น ซึ่งไม่ใช่โรงแรม ส่วนทางตนนั้นได้เริ่มเข้ามาดูแลประมาณปี 2551 โดยไม่ทราบว่าสระว่ายน้ำดังกล่าวสร้างรุกล้ำ และได้สานต่อธุรกิจแบบเต็มตัวในปี 2558 ส่วนห้องเช่ายังเป็นการให้บริการแบบรายเดือน และได้พยายามยื่นขอประกอบธุรกิจประเภทโรงแรม โดยทางฝ่ายบัญชีและการเงินเป็นฝ่ายดำเนินการเดินเรื่อง แต่ไม่สามารถดำเนินการขออนุญาตประกอบธุรกิจประเภทโรงแรมได้โดยไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นจึงหยุดระงับเรื่องดังกล่าว จนปัจจุบันทางโรงแรมถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
     ทั้งนี้ ทางตนนั้นยอมรับสภาพทุกอย่างทั้งเรื่องการทุบสระว่ายน้ำ และเรื่องการห้ามใช้อาคารของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ของเมืองพัทยา โดยผู้รับเหมาที่ว่าจ้างจะดำเนินการนำเครื่องจักรมารื้อถอนสระว่ายน้ำในวันที่ 24 พ.ย. ค่าใช้จ่ายประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนการรื้อสระว่ายน้ำจะได้สภาพเดิมนั้นหรือไม่ ก็ต้องดูทางเมืองพัทยาจะให้รื้อขนาดไหน ส่วนการบริการห้องพักทางได้หยุด และคืนเงินให้กับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป ที่สั่งจองห้องพักล่วงหน้าถึงเดือนเมษายนปี 2560 มูลค่าเสียหายหลายล้านบาท ส่วนพนักงานจะทำงานวันสุดท้ายวันที่ 25 พ.ย. และทางโรงแรมจะจ่ายค่าชดเชยตามระเบียบตามกฎหมายให้กับพนักงานทุกคนซึ่งมีประมาณ 35 คน ส่วนการจะกลับมาเปิดให้บริการใหม่นั้นยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับมาเปิดให้บริการหรือปิดกิจการไปเลยมันเป็นเรื่องของอนาคตนั้นเป็นเรื่องของเจ้าของที่ดินดังเดิม ส่วนตนคงไม่ดำเนินธุรกิจต่อคงคืนให้เจ้าของเดิมต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง