สามีภรรยาชาวเชียงใหม่ร้องศูนย์ดำรงธรรม ซื้อบ้านทำเรือนหอ 2 ล้านกว่า กลับมีเห็ดเพาะเชื้อราขึ้นโครงการไม่รับผิดชอบ
logo ข่าวอัพเดท

สามีภรรยาชาวเชียงใหม่ร้องศูนย์ดำรงธรรม ซื้อบ้านทำเรือนหอ 2 ล้านกว่า กลับมีเห็ดเพาะเชื้อราขึ้นโครงการไม่รับผิดชอบ

4,892 ครั้ง
|
09 พ.ย. 2559
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่  นายพิษณุพันธ์ คำแวง อายุ 34 ปี พร้อมด้วย นางนิภาภรณ์ หน่อแก้ว อายุ 35 ปี สามีภรรยา ได้นำเอกสารหลักฐานจำนวนมาก เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังซื้อบ้านหรูราคาสองล้านกว่าบาทแห่งหนึ่งในโครงการหมู่บ้านแถวอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ หวังสร้างเรือนหอครองคู่ กลับต้องพบกับเห็ดพิษเชื้อราขึ้นคิ้วบัวและวอลเปเปอร์บ้าน พอร้องเรียนไปยังโครงการหมู่บ้านก็ให้คนมารื้อแต่กลับต้องเสียเงินค่าดำเนินการเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ มารับเรื่องเพื่อดำเนินการเรียกมาเกลี่ยตามขั้นตอนต่อไป 
 
     โดยนายพิษณุพันธ์ คำแวง ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตกลงซื้อบ้านหลังหนึ่งในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหวังสร้างเป็นเรือนหอสำหรับภรรยา โดยตกลงทำสัญญาเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ราคา 2,090,000 บาท โดยนำบ้านหลังดังกล่าวเข้าผ่อนกับธนาคารแห่งหนึ่ง โดยต้องผ่อนจ่าย 37 ปี เดือนละ 8,000 บาท ทางธนาคารได้ชำระค่าบ้านให้ทางโครงการหมู่บ้านจนหมดแล้ว ภายหลังจะขนของเข้าและซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เข้าไปอยู่อาศัย แต่ปรากฏพบว่ามีเห็ดและเชื้อราออกที่คิ้วบัวกันเปื้อนผนังพื้นห้องรับแขก และมีเชื้อราขึ้นขอบคิ้วจากพื้นขึ้นมาประมาณ 1 ฟุต เป็นแนวตลอดทั้งหลัง 
 
     เมื่อวันที่ 30 ก.ย. พอหลังจากพบเหตุการณ์ดังกล่าว จึงไปแจ้งผู้คุมการก่อสร้างโครงการให้ทราบเบื้องต้น และแจ้งทางผู้จัดการโครงการ ซึ่งได้รับเรื่องไว้และบอกจะแจ้งทางเจ้าของโครงการทราบ โดยให้ตนเองเขียนข้อร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมากับทางโครงการ โดยตนเองเขียนข้อร้องเรียนไปและนัดตนพร้อมภรรยาไปดูที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมสถาปนิกของโครงการเมื่อวันที่ 16 ต.ค. โดยได้มีการตรวจสอบพร้อมจดบันทึกรายละเอียด โดยแจ้งว่าที่เกิดเหตุขึ้นเพราะความชื้นจากใต้ดิน และรับปากตนเองว่าจะนำไปเสนอเจ้าของโครงการ จะรื้อแก้ไขให้แล้วเสร็จ และสอบถามตนเองว่าจะใช้วอลเปเปอร์แบบเดิมหรือทาสี ตนจึงแจ้งว่าให้ทาสีก็ได้เพื่อป้องกันปัญหาความชื้น 
 
     พอตกลงว่าจะแก้ไขแล้วจึงนัดวันเวลาแก้ไข ในวันที่ 23 ต.ค. โดยเข้าไปพร้อมกัน และสถาปนิกคนดังกล่าว นำช่างโครงการจำนวน 1 คน มารื้อคิ้วบัวและวอลเปเปอร์บ้านตนเองที่เป็นเชื้อราทั้งหลังตลอดแนวบ้าน แล้วเอาคิ้วบัวที่ถอดออกวางไว้ที่จอดรถหน้าบ้าน ตนเองจึงไปติดต่อที่สำนักงานโครงการ เพื่อพบผู้จัดการโครงการ แต่ติดต่อสอบถามก็ไม่พบ พอโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ค่อยรับสาย นัดไม่ตรงเวลา บางครั้งรับก็อ้างว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ โดยจะให้ตนเองใช้สีทาบ้านราคาถูกที่ไม่มีการกันความชื้น 
 
      ที่มาร้องเรียนนี้เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนเองต้องการซื้อบ้านราคาแพงดังกล่าวเป็นเรือนหอไว้อยู่ร่วมกับภรรยา แต่พบว่ามีเห็ดและเชื้อราขึ้นทั่วบ้านทั้งหลัง ซึ่งตนเองต้องผ่อนกับธนาคารกว่า 30 ปี แต่ตอนนี้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ ทั้งที่บ้านที่ซื้อราคาแพง 2 ล้านกว่าบาท โครงการไม่รับผิดชอบใดๆเลย เหมือนเร่งสร้างบ้านไม่ได้ตรวจเรื่องความชื้นภายในโครงการสร้าง ทำให้เกิดเชื้อราและเห็ดตามผนังบ้านและมุมต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายหากตนเองมีลูกหรือนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน โดยโครงการไม่รับผิดชอบใดๆเหมือนปิดการขายแล้วก็หมดอำนาจหน้าที่ พอขอติดต่อสอบถามเจ้าของโครงการก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ติดต่อ ร้องเรียนก็ไปถึงแค่ลูกน้องไม่ดำเนินการให้อ้างว่าไม่มีอำนาจ ต้องยื่นประชุมผู้บริหาร พอทำหนังสือตอบกลับมา ก็ให้ตนเองออกค่าใช้จ่ายบางส่วนทั้งๆที่ไม่มีใช่ความผิดของผู้ซื้อบ้าน ตนอยากจะขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรม และทาง สคบ.เป็นตัวกลางในการนัดเจรจากับเจ้าของโครงการที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง หรือไกล่เกลี่ยการแก้ไขให้จบ ก่อนสิ้นปี เพราะจะหมดสัญญาวันที่ 31 ธ.ค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง