รปภ.ทางด่วนให้ปากคำ หลังถูกทำร้ายเพราะให้กระบะไม่มีบัตรอีซี่พาสถอยไปจ่ายช่องเงินสดแทน
logo ข่าวอัพเดท

รปภ.ทางด่วนให้ปากคำ หลังถูกทำร้ายเพราะให้กระบะไม่มีบัตรอีซี่พาสถอยไปจ่ายช่องเงินสดแทน

ข่าวอัพเดท : นายอนิรุธ แสงมิตร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด่านเก็บเงินช่องทางพิเศษแห่งประเทศไทย ที่ถูกชายไม่ทราบชื่อที่โดยสารมากับรถกระบะยี่ห้ออ รปภ,ทางด่วน,ประชาชื่น,อีซี่พาส,ต่อย

7,125 ครั้ง
|
07 พ.ย. 2559
นายอนิรุธ แสงมิตร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด่านเก็บเงินช่องทางพิเศษแห่งประเทศไทย  ที่ถูกชายไม่ทราบชื่อที่โดยสารมากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์เทา เลขทะเบียน 1 ฒผ 5526 กทม.ทำร้ายร่างกาย ขณะปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด่านเก็บเงินทางด่วนประชาชื่นขาเข้า ทางพิเศษศรีรัช เดินทางมาที่ สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่เมื่อวานได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไปแล้ว โดยทางผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน ขณะที่ตนเองกำลังโบกรถอยู่ที่ตู้เก็บเงินที่ 13 ก็ได้มีรถกระบะมีผู้โดยสารรวมคนจำนวน 5 คน ขับเข้ามา แต่ไม่สามารถผ่านได้เนื่องจากไม่มีบัตรอีซี่พาส ตนจึงได้บอกให้ถอยหลังไปเข้าตู้ที่ 16 ซึ่งเป็นตู้เก็บเงินสด เนื่องจากตู้ที่ 12-15 เป็นช่องอีซี่พาส แต่รถคันดังกล่าวกลับถอยหลัง แล้วขับเข้าไปที่ตู้ 12 จึงไม่สามารถผ่านได้อีก จากนั้นผู้โดยสารที่นั่งมาที่ข้างหลังคนขับก็โวยวายกับเจ้าหน้าที่ซึ่งพยามอธิบายกับคนในรถให้เข้าใจ ตนจึงเดินเข้าไปดู จากนั้นคนที่นั่งข้างคนขับก็ลงจากรถแล้วเดินตรงมาหาตน แล้วด่าทอด้วยคำหยาบคาย หาว่าตนเองพูดจาเสียงแข็งทำเสียงดังใส่ โดยเจ้าหน้าที่ในตู้เก็บเงินได้ตะโกนให้ตนระวังตัว เนื่องคนดังกล่าวทำท่าจับที่เอว คล้ายมีอาวุธ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้กระชากแขนตนและชกเข้าที่ใบหน้าและดวงตาหลายครั้งจนตนฟุบลงไปกับพื้น จากนั้นจึงกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไป หลังจากนั้นคนที่เห็นเหตุการณ์จึงได้นำตนส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎ์ ประชาชื่น เบื้องต้น ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาข้างซ้าย ใบหน้า และที่บริเวณต้นขา โดยหลังจากที่ถูกเหวี่ยงล้มทำให้ขาไปกระแทกขอบฟุตบาท ส่งผลให้ขณะนี้เดินไม่ค่อยสะดวกต้องหยุดพักงานก่อน 
 
ข่าวอัพเดท : รปภ.ทางด่วนให้ปากคำ หลังถูกทำร้ายเพ
 
พันตำรวจเอกสามารถ พรหมชาติ ผู้กำกับ สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะให้พนักงานสอบสวนเรียกสอบปากคำเพื่อนร่วมงานของ รปภ.ที่อยู่ในเหตุการณ์เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าผู้ที่เป็นคนขับรถมีส่วนรู้เห็นหรือร่วมในการก่อเหตุด้วยหรือไม่ ก่อนจะออกหมายเรียกผู้ที่เป็นเจ้าของรถ และผู้ต้องสงสัยที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุมาสอบปากคำ จากการสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่า ได้รับบาดเจ็บเพียงรอยฟกช้ำบริเวณใบหน้า และต้นขา ประกอบกับแพทย์ลงความเห็นให้พักรักษาตัว 1 วัน เบื้องต้นพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นความผิด ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ไม่ถึงเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ เป็นความผิดลหุโทษ สามารถเปรียบเทียบปรับในชั้นพนักงานสอบสวนหากผู้เสียหายยินยอม โดยมีอัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง