รถทัวร์รับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นชนท้ายสิบล้อบนถนนบายพาสชลบุรี คันหลังชนต่อ 6 คันรวด เจ็บเกือบ 20 คน
logo ข่าวอัพเดท

รถทัวร์รับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นชนท้ายสิบล้อบนถนนบายพาสชลบุรี คันหลังชนต่อ 6 คันรวด เจ็บเกือบ 20 คน

3,991 ครั้ง
|
25 ต.ค. 2559
     ตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคัน บริเวณถนนคู่ขนานสายบายพาส สาย 7 ตอนที่ 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร หน้าห้างสรรพสินค้าฟลายนาว ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย การจราจรติดขัดยาวนับกิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา
 
     ที่เกิดเหตุพบรถชนกันจำนวนหลายคันกีดขวางถนนทั้งเส้น รถที่สัญจรผ่านไปมาไม่สามารถผ่านไปได้ ต้องใช้เส้นทางเลี่ยง โดยพบรถบรรทุก 10 ล้อ สีขาวทะเบียนชลบุรี ที่มีนายวิรุจน์ จันทร์เทพา เป็นคนขับ จอดอยู่ด้านหน้า โดยมีรถทัวร์สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ชนท้ายในสภาพด้านหน้าเสียหายด้านหน้าพังยับ โดยมีนายอนุสรณ์ ประทับสร อายุ 34 ปี เป็นผู้ขับซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปนำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
     ส่วนด้านหลังพบรถกระบะสีดำ และรถเก๋งสีขาว จอดขวางถนนอยู่ทั้ง 2 คัน ในสภาพรถเสียหาย กระจกแตก และถูกชนด้วยรถบรรทุก 6 ล้อสีขาว ทะเบียนชลบุรี เข้าที่ข้างประตูด้านซ้ายของรถเก๋ง ส่วนหน้ารถเก๋งชนเข้าไปที่ด้านข้างของรถบรรทุก 10 ล้อ สีขาว ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่โดยสารมากับรถทัวร์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 18 คน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ทยอยนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบร่างกายให้แน่ชัดอีกครั้ง
 
     สอบถาม นายวิรุจน์ จันทร์เทพา เป็นผู้ขับรถบรรทุกคันหน้าสุด เปิดเผยว่า ขณะขับรถมาตามถนนเพื่อจะไปส่งของที่จังหวัดปทุมธานี โดยขับตามรถกระบะสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ขับอยู่ด้านหน้า เกิดเบรกกะทันหันเพื่อจะเบี่ยงออกขวาเข้าถนนสายหลัก ทำให้ตนต้องเบรกรถกะทันหันเนื่องจากเป็นรถหนัก ทำให้รถที่ตามมาด้านหลังเข้าชนท้ายรถตนดังกล่าว
 
     ส่วนนางสุวิมล จุลสัตย์ ผู้ขับรถเก๋งสีขาว เผยว่า ขณะขับรถออกมาจากไฟแดงตามมากันปกติ ก็เห็นรถกระบะเบรกกะทันหัน ตนจึงหักหลบ และเหยียบเบรกทำให้รถไปชนท้ายรถกระบะ ก่อนที่รถตนจะหมุนไปชนกับรถสิบล้อที่จอดอยู่ข้างถนน ส่วนรถบรรทุกที่ขับตามมาก็ชนเข้าด้านข้างรถตน แต่ไม่แรงมากเพราะรถเพิ่งเคลื่อนตัวออกจากไฟแดง จึงไม่ได้ใช้ความเร็วมาก 
 
     หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บภาพประกอบในที่เกิดเหตุเพื่อใช้เป็นหลักฐานในเรื่องของคดีความในการดำเนินคดีความทางกฎหมายต่อไป