จากกรณีผู้ใช้งานเฟสบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวระบุว่า ลูกสาววัย 2 ขวบ ที่เรียนอยู่ในชั้นอนุบาลของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกจับนั่งแยกทานอาหารบนพื้นห้องเพียงลำพัง ในขณะที่เด็กนักเรียนคนอื่น ๆ นั่งทานอาหารอยู่บนโต๊ะด้วยกัน
หลังจากนั้นตนเองจึงเดินทางไปคุยกับทางโรงเรียนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางโรงเรียนอ้างว่าเด็กขอความเป็นส่วนตัว แต่พอถามเรื่องราวจากลูกสาวกลับไม่เป็นไปตามที่โรงเรียนกล่าว
ซึ่งต่อมาผู้ใช้งานเฟสบุ๊กดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งระบุว่า "ได้ไปคุยกับทางโรงเรียนมาเรียบร้อยแล้วนะคะ ไม่ขอพูดอะไรมาก จากที่บอกว่าจะลบโพสต์ตอนนี้ขอเปลี่ยนใจคะ โรงเรียนมีคลิปจากกล้องวงจรปิดคะ ถ้าโรงเรียนอยากให้โลกรู้ ก็ให้นำคลิปมาเผยแพร่คะ เพราะตัวเราเองได้ดูแล้วคะ และลาออกเรียบร้อยแล้วคะ"
พร้อมทั้งอธิบายอย่างระเอียดว่า "เราขออนุญาตอธิบายรายละเอียดคร่าวๆในโพสต์นี้เป็นโพสต์สุดท้ายนะคะสำหรับเรื่องนี้
จากวันนี้ที่ได้ไปโรงเรียนมา ทางโรงเรียนมีภาพคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดมาให้เราชมคะ ในคลิปที่เราเห็นคือลูกเราเดินไปเดินมาในห้อง ไม่มีเก้าอี้นั่งเหมือนเพื่อนๆคะ และไม่มีเก้าอี้ว่างที่จะให้ลูกเราไปนั่งได้(จากในภาพดังกล่าว) พอทุกคนได้รับเค้กเสร็จ ลูกสาวเราได้รับเป็นคนสุดท้ายจากพี่เลี้ยง ซึ่งในคลิปไม่มีเสียง แต่พอจะเดาได้ว่าพี่เลี้ยงถามลูกเราว่าจะนั่งตรงไหน ลูกเราชี้ไปตรงที่นั่งดังกล่าวในรูปค่ะ ทางโรงเรียนแจ้งว่าน้องประสงค์จะนั่งตรงนั้นเองคะ เราเลยถามทางโรงเรียนว่า แล้วทำไมไม่มีเก้าอี้ว่างให้ลูกเรานั่งคะ โรงเรียนบอกว่าน้องไม่ยอมนั่งเก้าอี้คะ เราเลยถามต่อว่า แล้วตรงไหนคะเก้าอี้ที่น้องไม่นั่ง ถ้าน้องไม่นั่งเก้าอี้จะต้องว่าง 1 ตัวสำหรับน้อง โรงเรียนบอกว่าอ๋อน้องไม่นั่งเลยยกเก้าอี้ไปเก็บคะ เราเลยถามต่อว่างันมีคลิปก่อนหน้านี้ที่มีเก้าอี้ให้น้องนั่งแล้วน้องไม่นั่งมีไหมคะ ทางโรงเรียนไม่ได้ให้ดูคลิปต่อคะ มีแค่บางส่วนตอนที่น้องชี้ว่าจะนั่งตรงนั้น จากนั้นเราเลยถามต่อว่าไหนคะที่ว่างสำหรับเก้าอี้ของลูกเราที่นำเก้าอี้ไปเก็บแล้ว ทางเจ้าของโรงเรียนได้แจ้งว่าเก้าอี้มีพอ เก้าอี้ไม่ใช่ปัญหา แต่เด็กเค้าไม่นั่ง (พูดแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา) เราเลยบอกคะ เข้าใจคะว่าเก้าอี้มี แต่ที่นั่งตรงไหนคะที่มีพอที่จะวางเก้าอี้ให้ลูกเรานั่ง ทางโรงเรียนก็ตอบกลับมาอีกด้วยประโยคเดิมๆ (เก้าอี้มีพอ เก้าอี้มี ไม่ใช่ปัญหา) เราเลยบอกกลับไปว่าอันนี้รู้ค่ะ
เราพยายามขอดูคลิปที่แสดงว่ามีเก้าอี้พร้อมให้น้องนั่ง แต่น้องปฏิเสธที่จะนั่ง ตามคำบอกเล่าของโรงเรียน ก่อนที่จะถึงคลิปที่น้องชี้ไปว่าจะนั่งพื้น ตามที่ทางโรงเรียนเอามาให้ดู ก็ไม่สามารถเอาคลิปนั้นมาให้ดูได้ และคำอธิบายที่เราเริ่มงงละคือ ถามเด็กแล้ว เด็กบอกไม่นั่งเลยไม่ยกเก้าอี้มา ถ้าเด็กบอกจะนั่ง ก็จะเอาเก้าอี้มาให้นั่ง เก้าอี้ไม่ใช่ปัญหา แหะสับสนละ ตกลงเก้าอี้ไม่มีตั้งแต่ต้น หรือมีตั้งแต่ต้นแล้วเอาออก ถ้าทางโรงเรียนอยากจะชี้แจ้ง ก็อยากจะให้นำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่ให้ชมค่ะ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และให้คนอื่นช่วยแสดงความคิดเห็นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ทางโรงเรียนก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาคะ เราก็เลยจบคำพูดด้วยการบอกว่าวันนี้มาเพื่อมาขอลาออกคะ ถ้าโรงเรียนคิดว่าทำถูกแล้วก็ไม่เป็นไรคะ วันนี้เราไม่ได้มาเอาเรื่องหรืออะไรคะ จะขอจบแค่นี้ แล้วคิดว่าจะลบโพสต์ให้คะ (แต่ด้วยน้ำเสียง คำพูด กิริยาของคนที่คุณครูเรียกว่านาย) พูดเหมือนลูกเราเป็นคนผิดที่ชี้ไปนั่งตรงนั้นเอง โดยที่ทางโรงเรียนไม่สามารถเคลียร์ข้อข้องใจเราได้ และหลักฐานที่นำมาแสดงก็ยังคงไม่มีภาพโต๊ะว่างสำหรับลูกเราเลย เราเสียความรู้สึกมากคะ แถมคนที่ขอโทษเราแทนคือครูท่านนึงที่อยู่ในโรงเรียนคะ ขอบคุณครูท่านนี้ค่ะที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
และจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เราอยากขอจบเพียงเท่านี้คะ เพราะเราได้รับรู้ความจริงแล้วและไม่เสียใจที่ได้ลาออกจากโรงเรียนนี้คะ และที่สำคัญดีใจที่ได้ปกป้องความรู้สึกของลูกและได้ทำหน้าที่แม่อย่างดีที่สุด
ต้องขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้เราและน้องนาเวลล์นะคะ
กำลังใจจากทุกคนสำคัญกับเราและครอบครัวมากคะ
และต้องขอบอกว่าคนที่ว่าเรากับลูก ถ้าวันนึงเป็นลูกหลานคุณบ้างคุณคงจะรู้สึกเอง เราไม่ถือโทษโกรธคุณคะ
ปล.ความจริงก็คือความจริงที่คุณรู้อยู่แก่ใจคะ ทุกอย่างที่พูดมา ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่เราไม่เคยคิดจะโกหก และไม่คิดจะใส่ร้ายใครแน่นอนค่ะ และต้องขอโทษน้องๆทุกคนที่อยู่ในภาพด้วยนะคะ"
แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างเสียงวิจารณ์อย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ ถึงพฤติกรรมและการกระทำที่ไม่เหมาะสมของครูคนดังกล่าว เนื่องจากผู้ที่เป็นแม่ต่างรักและหวังให้ลูกตนเองได้รับและอยู่ในที่ดี ๆ คงไม่มีใครคาดว่าจะเกิดเรื่องในลักษณะดังกล่าวขึ้นภายในโรงเรียนอนุบาล
ซึ่งหลังจากเกิดกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียล ทางเพจ "คำโดนๆ!!กะคนเเรงๆ" ได้โพสต์รูปภาพครูจากโรงเรียนเดิม ขณะแกล้งจับเด็กนักเรียนหญิงอีกคนสวมกางเกงในไว้ด้านนอกกระโปรง โดยครูคนดังกล่าวเป็นผู้โพสต์ภาพเหล่านั้นลงเฟสบุ๊กของตนเอง พร้อมทั้งพูดคุยกับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนาน
ในทางกลับกัน ครูส่งรูปภาพไปให้แม่ของเด็กนักเรียนคนดังกล่าว แต่กลับอ้างว่าเป็นภาพที่เด็กเริ่มเรียนรู้ที่จะใส่กางเกงในด้วยตัวเอง โดยปกปิดความจริงที่ว่าตนเองเป็นผู้ลงมือแกล้งด้วยความคิดสนุก