ผอ.สพป.ปทุมธานี เขต 2 เตรียมตั้งกรรมการสอบเหตุครูปล่อยเด็ก 11 ไปกับคนแปลกหน้าจนถูกข่มขืน

6,595 ครั้ง

22 ก.ย. 2559

แชร์ข่าวไปที่

จากกรณีพ่อแม่ร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ลูกสาว วัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 จากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ถูกคนร้ายที่อ้างว่าผู้ปกครองให้มารับตัวน้องพาตัวน้องออกไปจากโรงเรียน โดยที่ครูเวรในวันนั้นไม่ได้ติดต่อไปสอบถามข้อเท็จจริงกับผู้ปกครองของเด็กก่อน ปล่อยให้คนร้ายพาตัวเด็กออกไปข่มขืน ก่อนพาน้องกลับมาส่งที่โรงเรียนตามเดิม และขู่ฆ่าหากบอกเรื่องนี้กับคนอื่น ในเวลาต่อมาได้ไปแจ้งความจนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย แต่ครอบครัวข้องใจในเรื่องความความปลอดภัย ว่าทำไมโรงเรียนถึงได้ปล่อยให้เด็กนักเรียนไปกับคนอื่นได้นั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในโรงเรียนดังกล่าวยังเป็นไปอย่างปกติ โดยทางโรงเรียนไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ เนื่องจากไม่มี ผู้อำนวยการโรงเรียนมา 2 ปีแล้ว และก็ยังไม่มี ผอ.คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ มีแต่ครูชั้นผู้น้อยไม่สามารถให้ข้อมูลได้แม้แต่กล่องวงจรปิดภายในโรงเรียนต้องรอคำสั่งจาก สพฐ เขต 2 เท่านั้น เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุนั้นก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียหาย และรู้จักกับพ่อแม่ของเด็ก เนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลกัน ซึ่งทางโรงเรียนก็มีมาตรการในการดูแลเด็กนักเรียนเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ประกอบกับกรณีดังกล่าวเด็กนักเรียนที่ถูกข่มขืน ได้มาโรงเรียนตามปกติโดยในช่วงเช้า และเด็กนักเรียนได้มาขออนุญาตครูกลับไปบ้าน แต่ครูก็ไม่อนุญาต ซึ่งเด็กคนดังกล่าวก็เข้ามาขออนุญาตครูถึง 3 ครั้ง โดยมีผู้ก่อเหตุขับขี่จักรยานยนต์มาจอดอยู่ที่บริเวณหน้าโรงเรียนและบอกว่าแม่ของเด็กให้มารับจึงได้อนุญาต เพราะเป็นคนที่รู้จักกันอยู่แล้ว เพียงแต่ครูไม่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามแม่ของเด็กก่อน จึงเกิดความเสียหายทั้งทางเด็กและโรงเรียน

ต่อมา เวลา 13.00 น. นายธีร์ ภวังคนันท์ ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองช่วยเหลือนักเรียน พร้อมด้วยนายเสริมปัญญา เทียมวัน ผอ.สพป.ปทุมธานี เขต 2 ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เพื่อสอบปากคำ พ่อและแม่เด็ก พร้อมเด็กอายุ 11 ปี โดยมีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ร่วมสอบปากคำด้วย โดยใช้เวลาใประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นต้นสังกัดในฐานะผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยหรือแก้ไขความบกพร่องที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นเท่าที่ทราบติดยาเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวและดำเนินคดีแล้ว สำหรับเด็กหญิงผู้เสียหายนั้นจะดำเนินพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจหรือที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอีกครั้ง เนื่องจากว่าเด็กมีอาการปวดท้องตลอดอาจส่งผลให้ติดเชื้อได้ หลังจากนั้นก็จะพาไปที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อรับการช่วยเหลือตามสิทธิต่อไป

นายเสริมปัญญา เทียววัน ผอ.สพป.ปทุมธานี เขต 2 กล่าวว่า ได้เข้าไปตรวจสอบผู้บริหารและครูในโรงเรียน เพื่อขอทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ พบว่าทางโรงเรียนมีความบกพร่องบางส่วน ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าครูเวรประจำไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองของเด็กที่ถูกพาไปข่มขืน ซึ่งก็ได้ให้นโยบายไปแล้วว่าเด็กนักเรียนที่จะกลับบ้านจะต้องมีผู้ปกครองเท่านั้นที่จะรับตัวออกไปได้ อย่างไรก็ตามจะได้ตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของความบกพร่องในครั้งนี้ต่อไป

ด้านพ่อเด็ก บอกว่า หลังจากเกิดเหตุผู้บริหารโรงเรียนและครูไม่ได้ให้ความสนใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้วก็ตาม ซึ่งตนคิดว่าโรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 และครูเป็นเหมือนพ่อแม่คนที่2 ที่จะฝากให้ดูแลลูกหลานของตนได้ แต่เมื่อเกิดเรื่องนี้กับลูกสาวตน ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังโชคดีที่ลูกของตนยังมีชีวิตรอดกลับมา

แชร์ข่าวไปที่

ปทุมธานี

ครู

นักเรียน

ป5

ข่มขืน