สาวโคราชดวงเฮงถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 คู่ รับเงินรางวัล 30 ล้านบาท เผยต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแทนสามีที่ป่วย

53,781 ครั้ง

16 ก.ย. 2559

แชร์ข่าวไปที่

เมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 10 บ้านรวงทอง ตำบลแหลมทอง อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา หลังทราบข่าวว่า นางสมหมาย ด้วงกระโทก อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน เป็นผู้โชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 รวมจำนวน 5 คู่ ได้รับเงินรางวัลจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงก็พบว่า มีญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านจำนวนหลายสิบคน เดินทางไปแสดงความยินดีกับนางสมหมายกันเป็นจำนวนมาก

นางสมหมาย ด้วงกระโทก สาวดวงเฮงซึ่งกลายเป็นเศรษฐีใหม่ เผยว่า ตนประกอบอาชีพเป็นช่างปั้นแกะสลักหินทราย อยู่ที่บ้านหนองโสน ตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา และต้องเดินทางไปกลับจากบ้านพักไปที่ทำงานเป็นประจำทุกวัน ซึ่งปัจจุบันครอบครัวของตนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วยสามี, ลูกสาว 2 คน และหลานชายอายุ 5 ปี โดยเมื่อ 4 ปีที่ก่อนสามีป่วยเป็นเนื้องอกต้องผ่าตัดสมอง ทำให้ปัจจุบันสามีไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำให้ตนต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว และทำงานหาเงินมาใช้จ่ายในบ้านเรือน

ทั้งนี้โดยปกติแล้ว ตนจะเป็นคนชอบเสี่ยงโชคด้วยการซื้อล็อตเตอรี่เป็นประจำทุกงวด แต่ละงวดก็มักจะซื้อล็อตเตอรี่ครั้งละหลายใบ โดยตนมักจะซื้อล็อตเตอรี่กับชายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาขายล็อตเตอรี่ให้ตนที่ทำงานเป็นประจำเกือบทุกงวด และงวดนี้ก็เช่นกันตนได้ซื้อล็อตเตอรี่เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่หวยจะออก โดยได้ซื้อล็อตเตอรี่จำนวนทั้งหมด 8 คู่ ซึ่งในจำนวนนี้มีล็อตเตอรี่เลขชุด 5 คู่ หมายเลข 240650 ที่ถูกรางวัลที่ 1 รวมอยู่ด้วย โดยล็อตเตอรี่หมายเลขดังกล่าว ตนไม่ได้ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรก แต่คนขายได้หยิบยื่นให้ตนกับมือ

ช่วงที่กำลังออกรางวัลตนได้จดหมายเลขล็อตเตอรี่ที่ซื้อไว้ และทำงานไปด้วย โดยได้ฟังประกาศผลการออกรางวัล ซึ่งเมื่อตนได้ยินประกาศรางวัลที่ 1 ตนก็ยังไม่เชื่อหูตัวเอง ตนจึงรีบเอาล็อตเตอรี่ที่ซื้อไว้ไปตรวจทานซ้ำจนแน่ใจว่าถูกรางวัลที่ 1 จริงๆ ซึ่งตนรู้สึกดีใจมาก และรีบเก็บของปิดร้านเดินทางกลับบ้านที่อำเภอหนองบุญมากทันที ก่อนจะพาสามีไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรหนองบุญมาก

โดยหลังจากนี้ตนยังไม่ได้วางแผนว่าจะนำเงินรางวัลก้อนโตไปทำอะไร ซึ่งตนก็คงจะเก็บเงินเอาไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกๆ และหลาน ใช้จ่ายในครอบครัว รวมทั้งใช้หนี้สินจำนวนหนึ่ง ส่วนเรื่องการทำงานเป็นช่างปั้นแกะสลักหินทราย ตนก็จะทำงานอาชีพนี้ต่อไป เพราะเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงชีพมานานแล้วแล้ว

แชร์ข่าวไปที่