ผลสอบครูปาแก้วใส่นักเรียนมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ชี้โยนจริงแต่ไม่เจตนาให้โดน ด้านเด็กสาวยันครูตั้งใจ-เตรียมย้ายที่เรียน
logo ข่าวอัพเดท

ผลสอบครูปาแก้วใส่นักเรียนมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ชี้โยนจริงแต่ไม่เจตนาให้โดน ด้านเด็กสาวยันครูตั้งใจ-เตรียมย้ายที่เรียน

2,929 ครั้ง
|
16 ก.ย. 2559
     จากกรณีที่นางสาวนฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี  จังหวัดนครราชสีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพละศึกษาของโรงเรียนขว้างปาถ้วยแก้วถูกกกหูด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท ซึ่งล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ได้มีคำสั่งย้ายครูพละศึกษาที่ก่อเหตุ ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนาจนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น นั้น
 
     ล่าสุด นายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 เปิดเผยถึงผลการดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยของครูพละที่ก่อเหตุว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มี นายสมัคร ไวยขุนทด ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นประธานกรรมการสอบสวน พร้อมด้วยกรรมการสอบสวนรวม 3 คน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเชื่อว่านายไพฑูรย์ได้โยนแก้วน้ำใส่กลุ่มเด็กนักเรียนจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะโยนไปถูกตัวน้องทราย ซึ่งพยานที่เป็นเพื่อนเด็กนักเรียนในห้องหลายคนยืนยันว่า แก้วน้ำที่นายไพฑูรย์โยนไปถูกขอบผนังหน้าต่าง ก่อนจะกระเด็นไปถูกศีรษะของน้องทราย เบื้องต้นคณะกรรมการสอบสวนวินัยสรุปว่า นายไพฑูรย์มีความผิดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 94 ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรติศักดิ์ ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน มิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว แต่เป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง 
 
     โดยหลังจากนี้คณะกรรมการสอบสวนวินัยของสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 จะนำผลสรุปเบื้องต้นส่งไปให้กับทาง ว่าที่ร้อยตรีนิพนธ์ ภักดีแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนโชคชัยสามัคคี เพื่อดำเนินการตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษความผิดทางวินัย ซึ่งบทลงโทษความผิดวินัยไม่ร้ายแรง จะมีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ไปจนถึงลดขั้นเงินเดือน โดยให้สรุปผลการพิจารณาโทษให้ทางต้นสังกัดรับทราบภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 ยังคงมีคำสั่งย้ายให้นายไพฑูรย์ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนาต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะทางต้นสังกัดต้องพิจารณาเรื่องผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้ง ถึงจะมีคำสั่งแน่ชัดว่าจะสั่งย้ายขาดนายไพฑูรย์ไปอยู่ที่โรงเรียนอื่น หรือจะให้ย้ายกลับไปทำงานตามเดิม
 
     ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนางสาวนฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี ถึงเรื่องผลการสอบสวนที่ออกมา โดยน้องทรายเปิดเผยว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นที่ออกมาตนไม่ได้มีความรู้สึกอะไร และตนก็ยังยืนยันในเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า นายไพฑูรย์ตั้งใจปาแก้วน้ำมาโดนตนจริง อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนกำลังปรึกษากับครอบครัวถึงเรื่องการย้ายสถานศึกษาไปเรียนยังโรงเรียนอื่น เพราะหากให้ตนกลับไปเรียนที่โรงเรียนเรียนเดิมคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก
 
     ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) นายไพฑูรย์ครูพละผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโชคชัย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการครู มีความน่าเชื่อถือ และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์จะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป