รวบ 2 โจ๋ฆ่าชิงทรัพย์แม่ต่อหน้าลูกชายที่โคราช บอกขับตามจนผู้ตายเสียหลักตกข้างทาง ยันไม่ได้ตามไปทำร้ายซ้ำ
logo ข่าวอัพเดท

รวบ 2 โจ๋ฆ่าชิงทรัพย์แม่ต่อหน้าลูกชายที่โคราช บอกขับตามจนผู้ตายเสียหลักตกข้างทาง ยันไม่ได้ตามไปทำร้ายซ้ำ

8,078 ครั้ง
|
15 ก.ย. 2559
     เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้จับกุมนายเกียรติศักดิ์ ประภาการ  อายุ 19 ปี และนายแบท (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ แล้วใช้อาวุธปืนทุบศีรษะทำร้ายนางอรุณ ปลั่งกลาง อายุ 48 ปี จนเสียชีวิตต่อหน้าเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 8 ปี ลูกชายของนางอรุณที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยกันกับแม่ เหตุเกิดที่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ตำบลชีวาน อำเภอพิมาย เมื่อคืนวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
 
     จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่า เมื่อคืนที่เกิดเหตุ ทั้งสองคนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน และไปจอดรถจักรยานยนต์นั่งเล่นที่บริเวณกระท่อมริมทาง โดยระหว่างนั้นนางอรุณผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยมีเด็กชายเอ ลูกชายวัย 8 ปี นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ผู้ต้องหาทั้งสองคนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปประกบเพื่อหมายจะชิงทรัพย์เหยื่อ โดยมีนายเกียรติศักดิ์เป็นคนขับ และมีนายแบทเป็นคนนั่งซ้อนท้าย และเมื่อผู้ต้องหาทั้งสองคนขับรถตามประกบได้นายแบทคนนั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ตีเข้าไปโดนบริเวณหมวกกันน็อคที่นางอรุณผู้ตายสวมใส่อยู่ ทำให้นางอรุณตกใจบิดคันเร่งรถจักรยานยนต์หลบหนีด้วยความเร็ว พวกตนจึงขับขี่รถตามไป จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเกิดเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทาง ซึ่งพวกตนทั้งสองคนไม่ได้ตามลงไปทำร้ายร่างกายนางอรุณผู้ตายซ้ำแต่อย่างใด และก็ไม่ได้จี้ชิงเอาทรัพย์สินมีค่าไปแม้แต่อย่างเดียว 
 
     ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านหลายสิบคนที่ทราบข่าวเดินทางไปดูการทำแผนในครั้งนี้ โดยชาวบ้านหลายรายได้ตะโกนสาปแช่งผู้ต้องหา แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และหลังจากทำแผนเสร็จเรียบร้อยแล้วตำรวจได้นำตัวเด็กชายเอ ลูกชายวัย 8 ปีของนางอรุณผู้ตาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ไปชี้ตัวผู้ต้องหาผ่านห้องกระจก โดยเด็กชายเอได้สามารถชี้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้อย่างแม่นยำ และยืนยันว่าทั้งสองคนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง
 
     ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังยอมรับสารภาพว่า ได้เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์ผู้คนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สัญจรผ่านไปมาในเวลากลางคืนตามถนนในเส้นทางที่เปลี่ยวในพื้นที่อำเภอพิมายมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ยังได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเหยื่อ และชิงเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป ซึ่งชุดสืบสวนได้ติดตามไปตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา และพบรถจักรยานยนต์ รวมทั้งทรัพย์สินที่เคยชิงทรัพย์เหยื่ออยู่ภายในบ้านพักหลายรายการ โดยผู้ต้องหาจะนำทรัพย์สินที่ชิงทรัพย์มาได้ไปขายเพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันใช้อาวุธจี้ชิงทรัพย์ผู้อื่น ข้อหาร่วมกันใช้อาวุธทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต ข้อหามีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง