กรมอุตุฯ ฉ.14 เผย พายุโซนร้อนราอี อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่น เตรียมเข้า 3 จว.อีสานเย็นนี้
logo ข่าวอัพเดท

กรมอุตุฯ ฉ.14 เผย พายุโซนร้อนราอี อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่น เตรียมเข้า 3 จว.อีสานเย็นนี้

3,089 ครั้ง
|
13 ก.ย. 2559
     กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ "พายุโซนร้อน “ราอี” (Rai) บริเวณประเทศลาวตอนล่าง" ฉบับที่ 14 ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันนี้ (13 ก.ย. 59 ) พายุโซนร้อน “ราอี” (Rai) ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้วบริเวณประเทศลาวตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 50 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของจังหวัดอุบลราชธานี หรือที่ ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. 
 
     คาดว่าประมาณ 17.00 น. ของวันนี้(13 ก.ย. 59) พายุนี้จะเคลื่อนเข้าประเทศไทยบริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำต่อไป หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบนตามลำดับต่อไป ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ยโสธร สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สระบุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
  
     ส่วนคลื่นลมบริเวณอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-19 กันยายน 2559 นี้ และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.00 น. โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 23.00 น.
 
     โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเวลานี้ อิทธิพลพายุ ราอี ยังสร้างผลกระทบทั่วทุกพื้นที่ จ อุบลราชธานี โดยเฉพาะในเขตตัวอำเภอเมือง และ อำเภอวารินชำราบ ถูกฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง รอการระบายจนท่วมสูงกว่า 30-40 เซนติเมตร โดยเฉพาะบริเวณถนนสายวารินชำราบ - กัลทราลักษณ์ หน้าห้างโลตัส สาขาวารินชำราบ และปากทางหมู่บ้านก่อ ในระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 40 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กแทบวิ่งผ่านไม่ได้ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลแสนสุข ต้องเร่งจัดกำลังคน เปิดฝาท่อระบายน้ำตามจุดต่าง ๆ และเก็บเศษขยะที่ไหลมาอุดตันตามปากท่อระบายน้ำ ออกให้หมด เพื่อให้น้ำที่ท่วมถนนไหลลงสู่แม่น้ำลำคลองตลอดเวลา 
 
     โดยขณะนี้บรรยากาศทั่วไป ยังเกิดฝนตกตลอดเวลา จึงทำให้การระบายน้ำตามผิวถนนที่ท่วมล่าช้าไปนาน และแจ้งให้ประชาชนที่ต้องการสัญจรผ่านเส้นทางแห่งนี้ เปลี่ยนไปใช้เส้นทางสำรอง บริเวณสายเลี่ยงเมืองวารินชำราบ อุบลราชธานี เพื่อความสะดวกในช่วงฝนตกน้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย