ชายวัย 53 ปีเมียตาย คบหญิงเป็นแฟนหลอกขายบ้านก่อนเชิดหนี หนำซ้ำเกิดอุบัติเหตุจนพิการ ลูก 3 คนหาบ้านเช่าผลัดกันขาดเรียนมาดูแล

14,733 ครั้ง

01 ก.ย. 2559

แชร์ข่าวไปที่

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหงอนไก่ หมู่ 3 ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนมาเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้าน และเป็นครอบครัวที่น่าสงสารเพราะพ่อซึ่งเคยเป็นหัวหน้าครอบครัว ประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้มานานกว่า 2 เดือน มาอยู่ด้วยกันพร้อมกับลูก 3 คน ซึ่งอยู่ในวัยเรียนทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบบ้านไม้หลังเก่ายกสูง อยู่ริมถนนในหมู่บ้านหงอนไก่ พบนายสมศักดิ์ แสงสุวรรณ อายุ 53 ปี นอนป่วยเดินไม่ได้อยู่บนแคร่ไม้ชั้นล่างของบ้าน โดยมี น.ส.อรยา เขียวลี อายุ 18 ปี ลูกสาวคนโต เรียนอยู่ชั้น ม.6 ที่โรงเรียนละหานทรายรัชดาภิเษก, ด.ช.วีรพล แสงสุวรรณ อายุ 14 ปี ลูกชายคนที่สอง เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนในตำบล และ ด.ญ.ลุมุน แสงสุวรรณ อายุ 13 ปี ลูกสาวคนเล็ก เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนในตำบล คอยดูแลอยู่ข้างๆ

โดยนายสมศักดิ์ แสงสุวรรณ เล่าว่า ตนเองอยู่กินกับภรรยาคนเก่ามีลูกด้วยกัน 3 คน เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาภรรยาได้เสียชีวิตลง ตนเองจึงหันมาประกอบอาชีพทำปุ๋ยดินส่งให้กับร้านขายต้นไม้ จนกระทั่งไปพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง จนคบหากันลึกซึ้ง แต่ผ่านไปประมาณ 4 เดือน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า เราได้เป็นผัวเมียกันแล้ว อยากจะมาลงทุนทำกิจการอื่น แต่ขาดทุน จึงแนะให้ตนเองขายบ้านที่อยู่ในตำบลละหานทราย อ.ละหานทราย กระทั่งขายบ้านพร้อมที่ดิน ในราคา 400,000 บาท นำเงินไปตัดค่างวดรถประมาณ 120,000 บาท ที่เหลือให้แฟนใหม่เอาไปลงทุน หลังจากหญิงคนนั้นได้เงินไปไม่นานเขาก็บอกเลิก อ้างว่ามีสามีอยู่แล้ว

ตนรู้สึกเสียใจจนเกิดอาการเครียด เพราะไม่มีบ้านให้ลูกอยู่ ผ่านไปประมาณ 7 วันหลังแฟนใหม่บอกเลิก ได้ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ รถเสียหายพังยับเยิน ส่วนตัวเองบาดเจ็บสาหัส จนถึงขณะนี้เคลื่อนตัวไม่ได้ ลูกทั้ง 3 คนจึงให้ญาติหาบ้านเช่าให้ห่างจากบ้านเดิมประมาณ 15 กิโลเมตร ในราคาเดือนละ 250 บาท

นายสมศักดิ์ เล่าทั้งน้ำตาว่า ความผิดพลาดที่คบหญิงผิดยังไม่พอ ยังมาพลาดครั้งใหญ่หลวงที่ตัวเองกลายเป็นคนพิการ ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ดีเหมือนที่ผ่านมา ตอนนี้สงสารลูกมาก เพราะอยู่ในวัยเรียน แต่ละคนจะต้องเปลี่ยนกันขาดเรียนมาดูแลพ่อที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังจากมาอยู่บ้านเช่าหลังนี้ ได้มีนายวันดี จันทร์ใส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.หนองแวง นำข้าวสารมาให้ประทังชีวิต แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานราชการใด มาดูแลช่วยเหลือในทุกด้าน จึงอยากจะวิงวอนให้ผู้ใจบุญมาช่วยดูแลด้านการศึกษาให้ลูกทั้ง 3 บ้างตามสมควร เพราะเกรงว่าลูกจะไม่ได้เรียนหนังสือ

แชร์ข่าวไปที่