ความคืบหน้า คดีที่คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์แล้วใช้อาวุธปืนทุบศีรษะทำร้ายนางอรุณ ปลั่งกลาง อายุ 48 ปี ชาวอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาจนเสียชีวิตบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน โดยเหตุเกิดต่อหน้าเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 8 ปี ลูกชายของนางอรุณที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค.นั้น
ล่าสุด พันตำรวจเอก สันติ เหล่าประทาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดี และร่วมประชุมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.พิมาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อม ทั้งครอบครัว ญาติ และชายหนุ่มที่มาติดพันผู้ตาย พร้อมทั้งเสาะหาหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงว่า อย่างไรก็ตามตำรวจยังคงไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และได้ตั้งประเด็นไว้ 3 ประเด็น ประกอบด้วย ฆ่าชิงทรัพย์ ประเด็นชู้สาว และประเด็นการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุ โดยประเด็นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งเพิ่มขึ้นมา เพราะจากการสอบถามเด็กชายเอเบื้องต้นยังให้การคลุมเครือไม่ชัดเจน ซึ่งต้องรอสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมา ชุดสืบสวนตำรวจภูธรพิมายได้นำตัวชายวัยรุ่นต้องสงสัย 2 ราย ไปให้เด็กชายเอชี้ตัว แต่เด็กชายเอยืนยันว่าไม่ใช่คนร้ายที่ประกอบเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบปากคำชายวัยรุ่นทั้งสองคนไว้ก่อนปล่อยตัวกลับไป ทั้งนี้ตำรวจยังเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
พันตำรวจเอกสันติ เหล่าประทาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของประชาชน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่ช่วยชุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรพิมาย ในการออกติดตามหาเบาะแสของคนร้ายที่ประกอบเหตุ โดยให้เร่งสืบหาตัวคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงว่า ในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุดังกล่าวมีบุคคลต้องสงสัยรายใดที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปในบริเวณนั้นบ้าง
ขณะที่บรรยากาศงานศพของนางอรุณผู้ตาย ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้าน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยนางใจ ปลั่งกลาง อายุ 82 ปี แม่ของนางอรุณผู้ตาย และเป็นยายของเด็กที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า นางอรุณผู้ตาย มีลูกชายอยู่ทั้งหมด 2 คน คือ เด็กชายเอ (พยานที่เห็นเหตุการณ์) อายุ 8 ขวบ และเด็กชายบี (พี่ชายเด็กชายเอ) อายุ 11 ปี ซึ่งหลังจากที่นางอรุณเสียชีวิตแล้วก็ไม่มีคนดูแลหลานทั้งสองคน เพราะพ่อของเด็กก็เสียชีวิตไปนานแล้ว ตนจึงต้องรับเลี้ยงดูหลานทั้งสองคนต่อไป
เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 8 ปี ลูกชายของผู้ตาย เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุคนร้ายได้ใช้ปืนทุบตีที่ศีรษะของแม่หลายครั้ง และถามแม่ว่ายอมหรือยัง ซึ่งแม่ของตนตอบว่ายอมแล้ว พร้อมพนมมือไหว้บอกว่ามีเงินอยู่ 200 บาท และคนร้ายก็ยังใช้ปืนทุบศีรษะแม่อีกหลายครั้ง ซึ่งขณะเกิดเหตุตนรู้สึกกลัวมาก
+ อ่านเพิ่มเติม