ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้ามุขศาลากลางจังหวัดลำปาง พบหญิงคนหนึ่งภายหลังทราบชื่อ นส.วรณัน ณ ลำพูน อายุ 32 ปี ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว อบจ.ลำปาง ได้นำกระป๋องและป้ายขอความเป็นธรรมและขอรับบริจาคเงินรวม 100,000 บาท เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีเนื่องจากจะถูกยึดบ้านเพื่อใช้หนี้ที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้น เนื่องจากถูกพนักงานธนาคารปลอมลายเซ็นต์ในการเปิดบัตรเครดิตซึ่งมียอดเกือบแปดหมื่นบาท โดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องมาก่อน
นส.วรณัน ณ ลำพูน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปเปิดสมุดบัญชีของธนาคารรัฐแห่งหนึ่ง เพราะทางหน่วยงานคือ อบจ.ลำปาง ต้องใช้ในการโอนเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคาร และได้ไปขอสินเชื่อบัตรเครดิตไว้แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา ซึ่งคิดว่าธนาคารคงไม่อนุมัติแล้วจึงไม่ได้ติดใจอะไร หลังจากนั้นก็มีเงินโอนเข้าบัญชีซึ่งก็มีทั้งเงินเดือน เงินโอทีและอื่นๆ ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเป็นเงินค่าอะไรบ้าง จนภายหลังทราบว่าธนาคารมีการโอนเงินเข้าบัญชีให้ 10,000 บาท ซึ่งตนเองก็ยินยอมชำระหนี้ดังกล่าว เพราะได้นำเงินทั้งหมดไปใช้โดยไม่ทราบมาก่อน แต่หลังจากนั้นก็แปลกใจว่าทำไมมีการหักเงินในบัญชีโดยไม่ทราบสาเหตุ
ต่อมามีหมายศาลไปยังที่บ้าน จ.เชียงใหม่ พ่อแม่ก็ตกใจว่าทำไมลูกถึงไปเป็นหนี้ร่วมแสนบาท ตนจึงให้พ่อแม่ส่งเอกสารต่างๆมาให้ที่ลำปาง ซึ่งทำให้ตนเองถึงกับงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก จึงได้แจ้งร้องทุกข์กับทางธนาคาร ผ่านผู้บริหารของ อบจ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตน เพื่อให้ตรวจสอบเอกสารต่างๆที่ธนาคาร ก็พบว่าพนักงานของธนาคารคนหนึ่งได้ปลอมเอกสารสมัครบัตรเครดิต เช่น ประวัติการทำงานซึ่งตนเองเป็นเพียงพนักงานจ้างชั่วคราวของ อบจ.ลำปาง แต่กลับถูกปลอมเป็นข้าราชการ จากเงินเดือนเพียง 8,000 บาท เป็น 20,000 บาท และปลอมลายเซ็นต์ในการกู้เงินโดยยินยอมให้หักเงินในบัญชีทุกเดือน ซึ่งลายเซ็นต์ตรงกับของพนักงานธนาคารที่เซ็นต์ในพาสปอร์ตของพนักงานคนดังกล่าว
โดยพนักงานธนาคารได้ยอมรับว่าการที่ปลอมลายมือชื่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเท่านั้น ซึ่งตนขอให้พนักงานธนาคารรับผิดชอบเงินที่ธนาคารฟ้องพร้อมค่าใช้จ่ายรวม 80,000 บาท ซึ่งตนก็รอสุดท้ายก็ไม่มีความรับผิดชอบใดๆออกมา จึงตัดสินใจแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง และหลังจากนั้นตนเองได้ถวายฎีกา โดยได้มีหนังสือมายังอัยการเพื่อให้ดูแลและให้ความเป็นธรรมกับตนเอง แต่จนถึงขณะนี้ปีกว่าแล้วทางสำนักงานอัยการก็ยังดำเนินการไม่เรียบร้อย ตนเกรงจะถูกยึดบ้านซึ่งเป็นทรัพย์สินของพ่อแม่ที่เหลืออยู่เพียงชิ้นสุดท้ายเท่านั้น แต่ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายทั้งๆที่ตนเองไม่ใช่ผู้ก่อหนี้ ผู้ที่กระทำกลับลอยนวลไม่ได้รับผิดชอบใดๆเลย ส่วนตนเป็นเพียงพนักงานจ้างชั่วคราว ซึ่งจะหมดสัญญาในเดือนกันยายนและก็ยังไม่ทราบว่าทาง อบจ.ลำปางจะต่อสัญญาอีกหรือไม่ ตนหมดหนทางแล้วจึงได้มานั่งขอทานเพื่อหาเงินไปใช้ต่อสู้คดีในครั้งนี้
+ อ่านเพิ่มเติม