เมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้า ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติพิเศษ การกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยขอนแก่น ได้นำหมายปล่อยตัวของศาลมณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น หลังศาล มทบ.23 มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.และคำคำสั่งหัวหน้า คสช. ท่ามกลางการรอต้อนรับของคนในครอบครัว “บุญภัทรรักษา” รวมไปถึง สมาชิกกลุ่มดาวดิน และประชาชนจากหลายจังหวัดที่มารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
โดยทันที ที่ประตูทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น เปิดออก นายจตุภัทร์ ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ได้เดินออกมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนที่นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา และ นางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของ นายจตุภัทร์ ได้สวมกอดลูกชายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และสวมใส่เสื้อแขนยาวที่มีข้อความว่าสามัญชนสีดำให้กับลูก และการทาแป้งและช่วยกันจัดเก็บของใช้ส่วนตัวต่างๆ ขณะที่สมาชิกกลุ่มดาวดิน รวมไปถึงประชาชนจำนวนมากที่มารอให้กำลังใจต่างร่วมกันสวมกอดนายจตุภัทร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น โดยที่นายจตุรภัทร์ ได้กล่าวให้กับผู้ที่มารอให้การต้อนรับว่า สู้ไม่สู้ ซึ่งทุกคนบอกว่าสู้
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา พ่อของไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า ทันทีที่ศาล มทบ.23 ยกคำร้องเรื่องการขอปล่อยตัวให้กับลูกชาย ทุกคนได้กลับมาหารือกันและมีมติร่วมกันว่าจะยื่นขอประกันตัว โดยทนายความได้ยื่นเรื่องเพื่อขอประกันตัวในชั้นศาล จาก ศาล มทบ.23 ด้วยวงเงิน 5,000 บาท แต่ศาลสั่งให้เพิ่มวงเงินประกันอีก 5,000 บาท ครอบครัวจึงยื่นขอประกันตัวในวงเงินรวม 10,000 บาท ซึ่งศาลได้ให้ประกันตัวมา ด้วยเหตุผลที่ครอบครัวได้ยื่นเรื่องไปคือนายจตุรภัทร์ ต้องมาศึกษาต่อ ที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ มารักษาอาการป่วย สำหรับคำสั่งปล่อยตัวนั้นศาลฯ ยังคงมีคำสั่งให้นายจตุรภัทร์ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศและห้ามชุมนุมหรือยุ่งเกี่ยวทางการเมืองเด็ดขาด ทั้งนี้จากนี้ไปหลังนายจตุรภัทร์ ออกจากการคุมขังแล้ว ทุกอย่างก็จะเข้าสู่กระบวนการและขั้นตอนทางกฎหมายในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งครอบครัวก็จะสู้ตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมายในภาพรวม
ส่วนนายจตุรภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า ครอบครัวได้ยื่นขอประกันตัว ซึ่งได้มีการหารือกันแล้ว และเห็นควรที่จะกลับมาเรียนหนังสือตามปกติ ขณะที่การต่อสู้คดีต่างๆก็ว่าไปทีละเรื่อง เท่าที่ทราบขณะนี้มีอยู่ 3 คดี และมีเพิ่มเติมอีก 1 คดี ที่จะต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนหรือดำเนินการตามขั้นตอนใด ซึ่งโดยส่วนตัวและครอบครับก็พร้อมที่จะสู้ ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย ในเมื่อประเทศเป็นอย่างนี้เราก็ต้องสู้กันต่อไปแต่การต่อสู้ดังกล่าวนี้เป็นการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ
+ อ่านเพิ่มเติม