นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขอปิดให้บริการตู้เอทีเอ็มในตู้รุ่นที่ต้องปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของตู้บางส่วนชั่วคราว หลังธนาคารตรวจสอบพบว่าเครื่องเอทีเอ็ม 1 ใน 3 ยี่ห้อ ที่ธนาคารใช้อยู่ เงินในเครื่องได้หายไป เริ่มแรกพบว่ามีจำนวน 5 เครื่อง ที่เงินหายไปเป็นจำนวน 960,000 บาท ธนาคารจึงได้ตัดสินใจปิดบริการเครื่องยี่ห้อนี้ทุกเครื่อง เพื่อสำรวจเงินทั้งหมดร่วมกับบริษัทเจ้าของเครื่องและทำการตรวจสอบวิเคราะห์หาสาเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เงินที่หายไปไม่ใช่เงินของลูกค้า ดังนั้นจึงไม่ได้กระทบบัญชีของลูกค้าแต่อย่างใด
ล่าสุด ภายหลังการตรวจสอบ ธนาคารได้รับแจ้งว่า นี่เป็นลักษณะการโจรกรรมเงินในกล่องเงินเครื่องเอทีเอ็ม เฉพาะที่ติดตั้งนอกสถานที่ โดยใช้โปรแกรมมัลแวร์ ซึ่งธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขให้เครื่องมีความปลอดภัยก่อนจะเปิดให้บริการอีกครั้ง และระหว่างนี้ธนาคารได้เปิดบริการในจุดติดตั้งที่มีความปลอดภัย ซึ่งเครื่องเอทีเอ็ม ยี่ห้อดังกล่าว 3,343 เครื่อง ตรวจสอบครบแล้วพบว่า มีเงินหายไป จำนวน 21เครื่อง เป็นเงินรวม 12,291,000 บาท
โดยธนาคารต้องการชี้แจงเพื่อให้ประชาชนและลูกค้าทราบสาเหตุที่ธนาคารต้องปิดให้บริการตู้เอทีเอ็มบางรุ่น เพื่อตรวจสอบระบบเอทีเอ็มของธนาคาร และเป็นการป้องกันไม่ให้เงินของธนาคารที่อยู่ในตู้หาย โดยขอยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับบัญชีและเงินของลูกค้าแต่อย่างใด และจะเร่งดำเนินการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับตัวผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ปิดบริการตู้เอทีเอ็มบางรุ่นดังกล่าว อาจทำให้ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวก โดยลูกค้าสามารถใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้งอยู่หน้าสาขาของธนาคารออมสินได้ทุกสาขา รวมถึงตู้เอทีเอ็มที่อยู่นอกสาขาบางส่วน นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการผ่านช่องทางอื่นๆ ของธนาคารได้ตามปกติ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการเอทีเอ็ม ลูกค้าสามารถใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็มได้ทุกธนาคารในเขตพื้นที่เดียวกัน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการทำรายการตลอดระยะเวลาที่ปิดบริการดังกล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม