ปธ. ขอนแก่น ยูฯ ซัดสมาคมฟุตบอลฯ ไม่ให้โอกาสชี้แจงปมมีเอี่ยวทำร้ายเปา ก่อนตัดสินเพิกถอนทีม

5,090 ครั้ง

19 ส.ค. 2559

แชร์ข่าวไปที่

เมื่อเวลา 21.00 น. นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายเอกราช ช่างเหลา ประธานที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด ร่วมกันออกแถลงการณ์สโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด หลังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีคำสั่งตัดสิทธิ์การแข่งขันในทุกรายการของสโมสรฯ เนื่องจากระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุทำร้ายผู้ตัดสินนั้น

นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด กล่าวว่า ตามประกาศสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้มีคำสั่ง ให้เพิกถอนสิทธิ์สมาชิกสภาพของสโมสรฯ โดยสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ โดยอ้างเหตุผลว่าสโมสรฟุตบอลขอนแก่นฯมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายกรรมการ หลังการแข่งขันฟุตบอลรายการ ยามาฮ่า ลีคดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาระหว่าง สโมสรฟุตบอลขอนแก่นฯ กับสโมสรอ่างทองเอฟซี ซึ่งสโมสรขอนแก่น ได้มีการชี้แจงว่าคดีกรรมการถูกทำร้ายในแมตช์ดังกล่าวนั้น จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือจากการเข้ามอบตัวของผู้ต้องหาไม่มีสิ่งใดที่กล่าวถึงหรือปรากฎหลักฐานเชื่อมโยงกับสโมสรฯ แต่จากการเพิกถอนสิทธิ์ดังกล่าว โดยมีมติจากสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยไม่ให้โอกาสสโมสรฯชี้แจง ทั้งที่มีหนังสือนัดวันชี้แจงแล้วไม่เกินวันที่ 23 ส.ค.

สโมสรฯ เตรียมเอกสารหลักฐานเข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 21 ส.ค.ซึ่งเสร็จสิ้นการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) กับสโมสรฟุตบอลอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด แต่สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯไม่รอฟังผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทรณ์โทษเสียก่อน โดยถือเป็นการตัดสินฝ่ายเดียว ขาดความเป็นธรรม ขาดความรอบคอบ ทั้งยังคงไม่แฟร์ ตามที่ นายกสมาคมฯ ใช้เป็นแนวทางการในการบริหารที่ชัดเจน ดังนั้นสโมสรจะใช้สิทธ์ทางกฎหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของสโมสร แฟนบอลและชาวขอนแก่น จนถึงที่สุด

นายวัฒนา กล่าวต่ออีกว่า ในวันจันทร์ จะมีการส่งเรื่องร้องเรียนตามขั้นตอนและตามระเบียบที่กำหนด เริ่มจากส่งเรื่องไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทยและสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อให้ชี้แจงถึงเหตุผลและคำสั่งดังกล่าว ให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการส่งเรื่องและยื่นขออุทธรณ์ไปยังฟีฟ่าและศาลปกครอง เพื่อขอใช้สิทธ์คุ้มครองชั่วคราวจนไปถึงการเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวจากสภากรรมการสมาคมฯต่อไป อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่กิดขึ้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการฟุตบอลของไทย ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวทุกสโมสร ทั้งในระดับไทยลีค,ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 ต่างสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะส่งทีมงานกฎหมายมาร่วมต่อสู้ ในฐานะที่เป็นสโมสรฟุตบอลด้วยกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยืนยันในการต่อสู้ตามขั้นตอนให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงของการออกแถลงการณ์ในคำสั่งดังกล่าวนั้นนักเตะ สตาฟโค้ช รวมไปถึงกลุ่มผู้ฝึกสอนและแฟนบอล ได้มาเกาะติดการแถลงการณ์ดังกล่าว โดยส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่เศร้าซึมและค้านในคำสั่งดังกล่าวของสมาคมฟุตบอลฯอย่างมาก

แชร์ข่าวไปที่