เวลา 18.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งจากพนักงานปั้มน้ำมันควอลิตี้ 100 ม.6 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้มีผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คนแต่งกาย ชุดสตรีมุสลิม ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขับรถยนต์กระบะสีบรอนด์เงิน ทะเบียน ปน.7744 ปัตตานี มาจอดเติมน้ำมัน ภายในปั้ม โดยแจ้งพนักงานให้เติมน้ำมันเต็มถัง ในขณะที่กำลังเติมน้ำมันอยู่นั้น ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนได้วิ่งลงจากรถ และข้ามถนน ไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ จอดรอรับอยู่ แล้วหลบหนีไปในตัวอำเภอรามัน
หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ป้ายทะเบียนดังกล่าว เป็นป้ายทะเบียนปลอม จึงได้ปิดกั้นเส้นทาง ห้ามรถวิ่งสัญจรผ่านไปมา เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับประชาชน จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าตรวจสอบทันที
ต่อมาเวลา 19.30 น. นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงได้เข้าทำการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ตามขั้นตอน จนพบว่าภายในรถ มีถังแก๊สขนาด 15 กก. วางอยู่ที่เบาะด้านหลังของรถ เจ้าหน้าที่จึงได้เริ่มกระบวนการเก็บกู้วัตถุระเบิดตามขั้นตอน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดที่อยู่ภายในรถเอาไว้ได้ โดยพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 80 กก. บรรจุในถังแก๊สขนาด 15 กก. จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร
จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถที่ถูกปล้นไปจากลูกจ้างร้านทำโครงหลังเหล็ก บนถนนภายในหมู่บ้าน บ้านทุ่งคา หมู่ที่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา โดยคนร้ายได้ยิง นายอดิศร สุขาเขิน ลูกจ้างร้านโครงเหล็กเสียชีวิต และบาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ารถคันที่นำมาก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายได้มีการเปลี่ยนสีใหม่จาก สีดำ – เทา มาเป็นสีบรอนซ์เงิน (สีเทา) รวมทั้งพ่นสีล้อรถใหม่ พร้อมเปลี่ยนป้ายทะเบียน ก่อนนำมาจอดที่ปั้มดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน ผกก.สส.ภ.จว.ยะลา ได้เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั้ม รวมทั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่เขตเทศบาลกายูบอเกาะ เพื่อตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายนำรถคันดังกล่าวเข้ามาจอด โดยพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เอาไว้ได้ ซึ่งจะมีการขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม