ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เคยเดินทางมาทางด้านด่านพรมแดนไทย ทางด้านอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 จากข้อมูลด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ พบว่า ตั้งแต่วันที่1-26กรกฎาคม 2559 พบว่า นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาด่านนี้เป็นเลข เป็น 0 เช่นเดียวกับรถยนต์ที่แจ้งนำเข้ามาก็เป็น 0 เช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนย้อนหลังพบว่าในเดือน กุมภาพันธ์ 2559 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากที่สุดในด้านด่านอำเภอเชียงของ มีจำนวน 19,299 คน มีการแจ้งนำรถยนต์เข้ามา จำนวน 4,635คัน และหลังจากนั้นตัวเลขลดลงมาเรื่อย ๆ ล่าสุดในเดือน มิถุนายน 2559 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาด่านนี้ 1,229 คน รถยนต์จำนวน 141คัน
ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่มีตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย สืบเนื่องจากกฎระเบียบมีกรมการขนส่งออกมานั้นเข้มงวดมากขึ้น และทางการไทยได้แจ้งกรุ๊ปทัวร์จีน ทำให้การนำรถจีนเข้ามาลดลงไป
ขณะที่วัดร่องขุ่น อำเภอเมืองเชียงราย พบว่ามีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวแบบทัวร์ แต่ไม่พบว่ามีการนำรถยนต์จีนเข้ามาเที่ยวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่วัดร่องขุ่นบอกว่า ช่วงระยะนี้นักท่องเที่ยวจีนที่นำรถยนต์เข้ามานั้นไม่พบเลย มีเพียงเดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์มากกว่า
ด้าน นางกอบกาญจน์ วัฒวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง กระแสข่าวในช่วงนี้ที่มีการพูดถึงนักท่องเที่ยวจีนว่ามีจำนวนลดลงเพราะไม่พอใจที่โซเชียลมีเดียตำหนินักท่องเที่ยวจีนและระเบียบเข้มงวดการนำรถข้ามแดนเข้ามายังไทยนั้น โดยระบุว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไม่ได้นิ่งนอนใจแม้ข่าวและภาพนั้นเป็นของเก่า จึงได้เร่งดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทาง และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย เป็นประเด็นสำคัญ อีกทั้งได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เช็คกับทุกสำนักงานที่ประเทศจีนซึ่งพบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวจีนสนใจเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
จากสถิติจำนวน นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยตั้งแต่เดือน ม.ค -ก.ค มีนักท่องเที่ยว จีน เข้ามาแล้ว 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20 % โดยเฉพาะรายได้จาก นักท่องเที่ยวจีนครึ่งปีแรกของปี 59 (ม.ค-มิ.ย.) 244 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมากถึง 31 % ( รายได้ ม.ค-มิ.ย ปี 58= 186 แสนล้านบาท)
และนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. จนถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว สะสม จำนวน 18.8 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 9.39 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.99 และ 16.50 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดย จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรกยังเป็น จีน เกาหลี และญี่ปุ่นตามลำดับ
+ อ่านเพิ่มเติม