จากกรณีเด็กหญิงลูกครึ่งไทยออสเตรเรีย วัย 4 ขวบ ถูกแม่แท้ๆทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ จนเพื่อนบ้านทนไม่ไหวโพสต์ภาพและข้อความในโซเชียล และเข้าแจ้งความต่อที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุราษฎร์ธานี จะเดินทางไปรับเด็กมาไว้ในการดูแลเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุราษฎร์ธานี พบกับนางจารุณี รัตนจินดา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ได้ทำการดูแลและเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กหญิงมินนี่ อายุ 4 ขวบ ลูกครึ่งไทยออสเตรเลีย ที่ถูกแม่แท้ๆทำร้ายจนร่างกายมีบาดแผลไปทั้งตัว ซึ่งขณะนี้อาการของเด็กหญิงมินนี่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังอยู่ในอากรซึมเศร้าเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น
นางจารุณี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กล่าวว่า หลังจากได้ไปรับตัวน้องมินนี่มาดูแล ก็ได้มีการประสานกับทางญาติที่ลำปางและแม่เด็ก ในการจะรับเด็กกลับไปดูแล ภายใน 1-2 วันนี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูอาการของเด็ก รวมถึงสภาพความพร้อมในเบื้องต้นในการจะนำตัวเด็กกลับไปดูแลที่ลำปางด้วย พร้อมทั้งได้มีการประสานเตรียมความพร้อมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำปาง หากทางญาติซึ่งเป็นป้าของเด็กจะนำตัวเด็กกลับไปดูแล จะต้องมีการเยี่ยมติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้มีการแนะนำแม่น้องมินนี่ให้หางานทำ เพื่อปรับการใช้ชีวิตจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากการพูดคุยในเบื้องต้นกับผู้เป็นแม่ พบว่า ความจริงเป็นคนที่รักลูก พูดจาอ่อนโยน แต่อาจด้วยสภาวะปัญหาที่รุมเร้าทำให้เกิดเหตุการดังกล่าว
ทั้งนี้สภาพจิตใจของน้องมินนี่ค่อนข้างปรับตัวได้เร็ว และเข้ากับคนอื่นได้ง่าย เป็นเด็กน่ารัก พูดจาเข้าใจง่าย มีนิสัยอ่อนโยน แต่ยังคงมีอาการซึมเศร้าเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามน้องมินนี่ว่า รักแม่หรือไม่ น้องมินนี่กลับส่ายหัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะบอกน้องมินนี่ว่าแม่รักน้อง และเมื่อสอบถามใหม่ว่ารักแม่หรือไม่ น้องมินนี่ตอบว่ารัก แต่อยากอยู่ที่บ้านพัก ไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่
+ อ่านเพิ่มเติม