จากกรณีที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่วงปากท้องร้องทุกข์ ได้นำเสนอข่าวเกษตรกรในหลายหมู่บ้านริม 2 ฝั่งคลองทวีวัฒนา จ.นนทบุรี ร้องเรียนพบน้ำในคลองตรวจวัดค่าความเค็มสูงเกินค่ามาตรฐาน 0.5 กรัมเกลือ/ลิตร ซึ่งวัดได้สูงถึง 1.5 กรัมเกลือ/ลิตร และท่วมขังในพื้นที่นานกว่า 4 เดือน ทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้ และพืชเศรษฐกิจอาทิ กล้วยไม้ ข้าว มะนาว ผลไม้เสียหายกว่า 5 หมื่นไร่ มูลค่าหลายสิบล้านบาท
ล่าสุด นายพงศ์ศักดิ์ อรุณวิจิตรกุล ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 11 และคณะ พร้อมด้วย นายทวี ผิวผ่อง นายก อบต.หนองเพรางายและชาวบ้าน ทหาร ปตอ.พัน6 เข้าตรวจสอบการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อผลักดันน้ำเค็มออกจากคลองสาขาย่อย ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็ม
สำหรับการติดตั้งเครื่องสูบน้ำของกรมชลประทานในวันนี้มีขนาดท่อ 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง โดยมีรถบรรทุก และรถยกพร้อมเครนเดินทางเข้าติดตั้งและสามารถเริ่มสูบน้ำได้แล้ว ด้าน อบต.หนองเพรางาย ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงทำที่กั้นวัชพืชภายในคลองและกำจัดผักตบชวาเพื่อให้การไหลของน้ำเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว คาดว่าเกษตรกรสามารถระบายน้ำออกจากนาข้าวได้และความเค็มจะลดลงสู่ระดับที่ทำการเกษตรได้ภายใน 10-15 วัน
ส่วนน้ำเค็มที่วัดได้ในวันนี้ภาพรวมความเค็มในพื้นที่ลดลง คือที่คลองสองความเค็มเดิม 2.2 ลดลงเหลือ 0.95, คลองเสนีย์วงศ์ ความเค็มเดิม 1.4 ลดลงเหลือ 1.1, คลองทวีวัฒนา ความเค็มเดิม 0.9 ลดลงเหลือ 0.65
นายพงศ์ศักดิ์ อรุณวิจิตรกุล ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 11 เปิดเผยว่า คาดว่าใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน จะควบคุมความเค็มให้อยู่ในระดับที่สามารถเพาะปลูกได้ สำหรับอนาคตทางปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ได้สั่งการให้เร่งระบายน้ำเค็มออกและให้ตรวจสอบคุณภาพดินที่ได้รับความเค็มสะสมอยู่ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและให้มีการตรวจวัดตลอด
+ อ่านเพิ่มเติม