จากกรณีผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายผู้ช่วยพยาบาลสาวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 ก.ค. ต่อมาชาวบ้านจิกน้อย ตำบลคูเมือง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 200 คน ออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งจับกุมตัวผู้ต้องหาคือนายปกครอง ดินไธสง อายุ 24 ปี โดยมีข้อมูลว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วเป็นครั้งที่ 5 ต่อมาเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 20 ก.ค. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ จ.จันทบุรี นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจิกน้อย และหมู่บ้านใกล้เคียงในตำบลคูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 1,000 คน มารอการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนายปกครอง ดินไธสง หรืออ๊อฟ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเรา และชิงทรัพย์ บริเวณถนนลำปลายมาศขาเข้า ช่วงที่มีป่ายูคาลิปตัสห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร และห่างจากตัวอำเภอคูเมืองประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตำรวจต้องเตรียมกำลังกว่า 100 นาย เพื่อป้องกันการทำร้ายผู้ต้องหา เนื่องจากชาวบ้านต่างโกรธแค้นนผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่มาหลายครั้ง
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และสัญญาว่าจะเพิ่มข้อหาพยายามฆ่าเพิ่มอีก รวมถึงคดีค้างเก่าที่นายปกครอง ได้ทำไว้และยังไม่หมดอายุความ จะเอามาพิจารณาในสำนวนคดีด้วย และหากมีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มแต่คดีไม่หมดอายุ ก็จะดำเนินการเพิ่มทันที นอกจากนี้ตำรวจยังจะค้านการประกันตัวเพื่อไม่ให้ชาวบ้านหวาดกลัวอีกด้วย
โดยการทำแผนใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตั้งแต่การถีบรถจักรยานยนต์ล้ม และการก่อเหตุ หลังจากทำแผนเสร็จสิ้น ชาวบ้านที่มารอดูต่างเกิดความคับแค้นรุมเข้าประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถด้วยความลำบาก ท่ามกลางการสาปแช่งของชาวบ้าน
ต่อมา พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมชุดจับกุม นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวการจับกุม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมเผยว่าคืนเกิดเหตุ ได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อน 4 คนในหมู่บ้าน หลังจากแยกย้ายกัน ได้เห็นผู้เสียหายขับรถสวนมา จึงขับรถประกบตามไป พอได้โอกาส ได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายล้มข้างทาง ก่อนจะลากตัวไปในป่ายูคาลิปตัส แต่ผู้ช่วยพยาบาลขัดขืน จึงมีการต่อสู้กัน ก่อนจะใช้กำลังทำร้ายตามร่างกาย เมื่อเห็นเหยื่อสลบ ได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความไคร่ แล้วเอาโทรศัพท์และเงินสดอีก 320 บาทของผู้เสียหายติดตัวไปด้วย ซึ่งที่ทำไปทั้งหมดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า จากคำให้การของคนร้ายและคำให้การของเสียหาย การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายพยายามฆ่า เพราะมีการบีบคอ ใช้หมวกกันน็อคทุบ และเอานิ้วมือไปตรวจสอบลมหายใจของผู้บาดเจ็บ เมื่อผู้เสียหายแกล้งหยุดหายใจ คนร้ายจึงค่อยค้นเอาทรัพย์สินหนีไป
อย่างไรก็ตามสำหรับคดีเก่า ที่ชาวบ้านไม่พอใจในพฤติกรรมของนายอ๊อฟ ได้แจ้งให้ผู้นำหมู่บ้านไว้แล้ว หากผู้ใดที่ถูกนายอ๊อฟกระทำและคดียังไม่หมดอายุความ ก็สามารถมาแจ้งความเพิ่มได้ ทางตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมจะดำเนินคดีให้ โดยเบื้องต้นตำรวจได้ค้านการประกันเอาไว้แล้ว เพื่อไม่ให้รูปคดีเสีย ประกอบกับเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
+ อ่านเพิ่มเติม