กระบะตัดหน้าสองแถวชนกลางลำ เก๋งป้ายแดงตามชนซ้ำหักหลบเจอฟอร์จูนเนอร์เสยท้ายพลิกคว่ำคู่ เจ็บ 9 ราย
logo ข่าวอัพเดท

กระบะตัดหน้าสองแถวชนกลางลำ เก๋งป้ายแดงตามชนซ้ำหักหลบเจอฟอร์จูนเนอร์เสยท้ายพลิกคว่ำคู่ เจ็บ 9 ราย

4,572 ครั้ง
|
20 ก.ค. 2559
     เมื่อเวลา 20.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันและมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน มีผู้บาดเจ็บจำนวน 9 ราย เหตุเกิดบริเวณปากซอยสุขุมวิท 89 ทุ่งกลม-ตาลหมัน ฝั่งขาเข้าสัตหีบ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจสอบ
 
     ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บจำนวนมากอยู่ในอากาตกใจนอนรอความช่วยเหลืออยู่กลางถนนและริมข้างทาง พบบาดเจ็บจากการกระแทกอย่างรุนแรง ถลอกและเขียวช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ผู้บาดเจ็บทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อนลำเลียง เคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา 5 ราย โรงบาลบางละมุง 4 ราย 
 
     ตรวจสอบถัดมาพบรถกระบะ สีแดง ทะเบียน กรุงเทพฯ ถูกรถโดยสารสองแถวสายสัตหีบ-นาเกลือ สีขาว ชนเข้ากลางลำ ได้รับความเสียหาย ถัดไปประมาณ 50 เมตรพบรถเก๋งสีดำ ป้ายแดง  พลิกคว่ำตีลังกาล้อชี้ฟ้าอยู่บนเกาะกลางได้รับความเสียหายยับเยิน ห่างไปอีกประมาณ 100 เมตรพบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ได้รับความเสียหายกันชนด้านหน้าและฝากระโปรง พังยับเยิน
 
     สอบถามนางคำพุฒ ชาวเชียงยืน อายุ 48 ปีคนขับรถสองแถว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะสีแดง ได้ขับออกมาจากซอยตัดหน้าอย่างกะทันหัน ทำให้ตนเบรกไม่ทันจึงชนเข้าอย่างจังอยู่กลางถนน ทำให้รถเก๋งซึ่งขับขี่โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ขับตามมาด้วยความเร็วชนซ้ำทางด้านท้ายจนพลิกคว่ำ ก่อนจะหักหลบไปถูกฟอร์จูนเนอร์ที่ขับมาด้วยความเร็วทางเลนขวาสุดชนท้าย จึงตีลังกาหลายตลบก่อนไปหยุดค้างล้อชี้ฟ้าอยู่บนเกาะกลางถนน ทำให้นักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับตนได้รับบาดเจ็บหลายรายดังกล่าว 
 
     เบื้องต้นทราบชื่อผู้ขับขี่รถกระบะดังกล่าวคือ นายสุรินทร์ พรมลี อายุ 48 ปี อาชีพผู้รับเหมาให้การว่าตนเองได้ออกมาจากซอยสุขุมวิท 89 ทุ่งกลม-ตาลหมัน ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีรถจอดกรีดขวางเป็นจำนวนมาก ตนจึงต้องเบี่ยงออกไปกินเลนจนทำให้ถูกรถโดยสารสองแถวชน
 
     ทั้งนี้เวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาอย่างหนาแน่น ทำให้จราจรติดขัดยาวกว่า 2 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก