วีเจสาวรับคบหนุ่มอยุธยาเป็นแฟน ไม่เคยหลอกเงิน  เผยได้รับ 4 แสน ไม่ใช่ 1.2 ล้าน ค่าฝากซื้อคูปองใช้จ่ายในแอพ 2.6 แสน ที่เหลือให้ส่วนตัวระหว่างคบหา
logo ข่าวอัพเดท

วีเจสาวรับคบหนุ่มอยุธยาเป็นแฟน ไม่เคยหลอกเงิน เผยได้รับ 4 แสน ไม่ใช่ 1.2 ล้าน ค่าฝากซื้อคูปองใช้จ่ายในแอพ 2.6 แสน ที่เหลือให้ส่วนตัวระหว่างคบหา

11,535 ครั้ง
|
20 ก.ค. 2559
     จากกรณีที่แม่ค้าขายของชำที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับ ลูกชาย อายุ 28 ปี ในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากพบว่าเงินในในบัญชีธนาคารหายไปเกือบ 1.2 ล้านบาท เชื่อว่าโอนให้วีเจสาวในแอพพลิเคชั่นไอโชว์ทางโลกออนไลน์ ซึ่งต่อมาลูกชายเข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เสนา ยอมรับว่า ขโมยเงินจากบัญชีแม่ เพื่อไปให้วีเจสาวที่เข้าไปเล่นในอินเตอร์เน็ตจริง ด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับ พร้อมกราบขอโทษแม่ และแม่ได้ให้ลงบันทึกภาคทัณท์เอาไว้ 7 วัน โดยให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับวีเจสาว หากยุ่งอีกก็จะดำเนินคดีทันที ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 
 
     ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. น.ส.โฟร์ (ขอสงวนนาม) อายุ 20 ปี วีเจสาวคนดังกล่าว พร้อมด้วยพี่สาว ได้แถลงข่าวชี้แจงเกี่ยกวับเรื่องดังกล่าวว่า ตนไม่ทราบเงินมาจากไหน เขาบอกว่าป็นเงินของพี่ พี่เป็นคนหาเงิน เปิดร้านตัดสติ๊กเกอร์ แม่ขายของชำ เรื่องรายได้มีมากน้อยไม่ทราบ ซึ่งทำให้ตนได้รับผลกระทบอย่างมากจากข่าวที่ปรากฎออกไป โดยตนเพิ่งรู้จักกับฝ่ายชายเมื่อเดือนมีนาคม ผ่านแอบพลิเคชั่น”ไอโชว์” และตกลงคบหาดูใจกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยฝ่ายชายเล่นแอพพลิเคชั่น “ไอโชว์” นานแล้ว ก่อนหน้าที่ตนเองจะเข้ามาเป็นวีเจ ที่ผ่านมาทราบว่าได้พูดคุยและส่งไอคอนของขวัญให้กับวีเจสาวคนอื่นๆ ก่อนหน้าตนหลายคน บางคนทราบว่าฝ่ายชายส่งไอคอนของขวัญให้หมดค่าใช้จ่ายเป็นหลักแสน 
 
     ส่วนที่ว่าฝ่ายชายขโมยเงินจากบัญชีของแม่ ยอดเงินรวมประมาณ 1,200,000 บาทนั้น ตนไม่ทราบว่าเขานำไปใช้ตรงส่วนไหนอย่างไรบ้าง เพราะตนเป็นเพียงวีเจคนหนึ่งในจำนวนหลายๆ คน ที่ฝ่ายชายติดต่อพูดคุยผ่านแอพฯ ดังกล่าว ส่วนยอดค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายชายส่งไอคอนมอบเป็นของขวัญให้กับตนนั้น ไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไร เพราะต้องตรวจสอบกับทางบริษัท ซึ่งนอกจากฝ่ายชาย ก็ยังมีผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ส่งไอคอนของขวัญให้กับตนหลายคน ซึ่งเป็นไปตามปกติของลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการ 
 
     ทั้งนี้ ยืนยันว่าเงินที่ฝ่ายชายโอนให้ตนผ่านบัญชีนั้นไม่ถึง 1.2 ล้านบาท แต่เป็นจำนวนเงินประมาณ 400,000 บาท โดยแยกเป็นเงินที่ฝากซื้อคูปองสำหรับใช้จ่ายในแอพพลิเคชั่น จำนวนประมาณ 260,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือเป็นเงินที่ โอนให้ใช้ส่วนตัวระหว่างคบหาดูใจกัน หากเงินส่วนไหนตนยืมก็โอนคืนให้ทุกครั้ง 
 
     ส่วนเรื่องรถยนต์ป้ายแดงที่ตนเพิ่งซื้อมาใหม่นั้น เป็นเงินของตนเองกับพี่สาว ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายชายได้โอนมาช่วยเหลือจำนวนเกือบ 100,000 บาท แต่แม่ของฝ่ายชายบอกเป็นเงินของแม่ ไม่ใช่เงินของฝ่ายชาย ตนจึงโอนคืนให้แล้ว ดังนั้นเงินออกรถจึงไม่มีเงินของฝ่ายชายแม้แต่บาทเดียว 
 
     และกรณีที่มีข่าวว่าอีกฝ่ายจะเดินทางไปบ้านเกิดตนที่ จ.ลำปาง เพื่อสู่ขอกับพ่อแม่ ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาพ่อแม่ตนเองยังไม่เคยเห็นหน้าฝ่ายชาย มีเพียงพี่สาวที่เคยเจอ สถานะก็เพียงแค่กำลังศึกษากัน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตนได้ให้ทนายความโทรไปขู่จะฟ้องร้องแม่ของฝ่ายชายที่ทำให้ตนเสียหาย ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยตั้งแต่เกิดเหตุตนเป็นฝ่ายอยู่เฉยๆ มาตลอด มีเพียงแจ้งไปยังบางสื่อเพื่อขอให้ลบภาพตนในข่าวออกเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่พร้อมชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด แต่จะขอออกมาชี้แจงทุกสิ่งทุกอย่างในเร็วๆ นี้ 
 

     สุดท้าย วีเจสาวพร้อมพี่สาว เผยว่าไม่คิดจะแจ้งความกลับแต่อย่างใด แต่อยากขอความเป็นธรรมจากสังคม พร้อมกันนี้ยังได้นำหลักฐานข้อมูลการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์กับฝ่ายชาย รวมถึงบัญชีรายได้จากการได้ไอคอนของขวัญในการเป็นวีเจมาแสดงต่อสื่อมวลชนที่เข้าร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย