จนท.ป่าไม้สนธิกำลังรื้อฟาร์มวัวที่โคราชรุกป่าสงวน กว่า 400 ไร่ เจ้าของโต้ซื้อมาถูกต้อง อยู่มาตั้งแต่ปี 35
logo ข่าวอัพเดท

จนท.ป่าไม้สนธิกำลังรื้อฟาร์มวัวที่โคราชรุกป่าสงวน กว่า 400 ไร่ เจ้าของโต้ซื้อมาถูกต้อง อยู่มาตั้งแต่ปี 35

1,952 ครั้ง
|
11 ก.ค. 2559
     เมื่อเวลา 10.00 น. นายพัทยา แวววุฒินันท์ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่า นม.7 อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวนกว่า 40 นาย ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าทำการทุบทิ้งรื้อถอนฟาร์มวัวไม่มีเลขที่ บ้านห้วยบง ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เป็นทั้งคอกวัว อาคารเก็บฟาง บ้านพักคนงานและอื่นๆรวม 7 หลัง โดยไม่มีการขัดขวางแต่อย่างใด
 
     ทั้งนี้นายพัทยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่าฟาร์มวัวแห่งนี้ทำการก่อสร้างบุกรุกเข้าไปในเขตป่าสงวนเทือกเขาดงกระสัง-ลำพญากลาง ประมาณ 420 ไร่ จึงได้ทำการแจ้งให้ นายมานพ ตู้เพชร ผู้ควบคุมดูแลฟาร์มทราบ พร้อมกับนำคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงกระสังและป่าลำพญากลาง จังหวัดนครราชสีมา ที่ 49/2559 ซึ่งออกตาม ม.25 แห่ง พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาติดประกาศให้ทราบว่าให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกไปจากเขตป่าสงวน ภายใน 30 วัน โดยติดประกาศไว้ที่อำเภอด่านขุนทด องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยบง ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และที่ฟาร์ม จนกระทั่งครบกำหนดตามที่ประกาศไว้ และยังยืดเวลาไปจนครบ 60 วัน ปรากฏว่าเจ้าของฟาร์มยังคงเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ตนจึงสนธิกำลังฝ่ายต่างๆดังกล่าว มาทำการทุบทิ้งรื้อถอนออกไป แต่ได้มีการต่อรองกับเจ้าหน้าที่ว่าอย่าเพิ่งรื้อถอนบ้านพักคนงาน เกรงว่าจะหาที่อยู่ลำบาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อนุโลมให้อยู่ต่อได้อีก 4 วัน
 
     ส่วนนายสมชาย ลิ้มชูวงศ์ อายุ 58 ปี เจ้าของฟาร์มดังกล่าว เปิดเผยว่ าตนซื้อที่ดินมาจากชาวบ้านอย่างถูกต้อง จำนวน 2 แปลง มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ โดยไม่ทราบเลยว่าที่ดินดังกล่าวจะบุกรุกเข้าไปในเขตป่าสงวน ซึ่งตนได้สอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองท้องที่ต่างๆ ต่างไม่มีใครทราบว่าเป็นเขตป่าสงวนแต่อย่างใด และตนก็ครอบครองโดยเปิดเผยมาตั้งแต่ปี 2535 รวมเวลากว่า 20 ปี ก็ยังไม่มีใครมาโต้แย้งใดๆเลย ตนจึงแปลกใจมากว่าอยู่ๆเจ้าหน้าที่มาทำการรื้อถอนได้อย่างไรคงจะต้องปรึษาผู้รู้กฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป