เอแดร์ ซัดชัย พา 'ฝอยทอง' เชือดเจ้าภาพ เถลิงแชมป์ยุโรปสมัยแรก

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร2016” รอบชิงชนะเลิศ เป็นเกมการแข่งขันระหว่างเจ้าภาพ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ลงสนามพบ “ฝอยทอง” โปรตุเกส

            ทีมเจ้าภาพเอาชนะเยอรมนี 2-0 จากการเหมาคนเดียว 2 ประตูของอองตวน กรีซมันน์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลยูโรได้เป็นสมัยที่ 3 โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ พวกเขาคว้าแชมป์ได้ทุกครั้ง

            เกมนี้กุนซือดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม ในระบบ 4-4-2 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ฮูโก โยริส กองหลัง ปาทริซ เอฟร่า, โรล็องต์ กอสเชียลนี, ซามูเอล อุมติตี, บาการี ซานญ่า กองกลาง พอล ป็อกบา, แบรสต์ มาตุยดี, ดิมิทรี ปาเยต, มุสซ่า ซิสโซโก้ ส่วนกองหน้าใช้โอลิวิเยต์ ชิรูด์ กับ อองตวน กรีซมันน์

            ด้านโปรตุเกส เอาชนะเวลส์ 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นสมัยที่ 2 โดยเมื่อปี 2004 พวกเขาเป็นเจ้าภาพและผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ แต่อกหักพ่ายแพ้ กรีซ ไปอย่างพลิกล็อก ชวดแชมป์อย่างน่าเสียดาย

            เกมนี้กุนซือเฟร์นานโด ซานโตส จัดทัพในระบบ 4-1-2-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู รุย ปาทริซิโอ กองหลัง เปเป้, โฆเซ่ ฟอนเต้, ราฟาเอล เกอร์เรโร่, เซดริก ซัวเรซ โดยมี วิลเลียม คาร์วัลโญ่ ยืนเป็นตัวตัดเกม ขณะที่ 3 แนวรุกใช้ เจา มาริโอ, อาเดรียน ซิลวา, เรนาโต ซานเชส ส่วนคู่หน้าใช้ นานี กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

            เริ่มเกมเป็นทีมเจ้าภาพที่ครองบอลบุกเข้าใส่โปรตุเกสอย่างหนัก พยายามหาช่องเจาะแนวรับทีมฝอยทอง แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ขณะที่โปรตุเกสใช้จังหวะโต้กลับคอยเล่นงานแนวรับฝรั่งเศสได้หวาดเสียวอยู่หลายครั้ง

            แต่แล้วในนาทีที่ 25 คริสเตียโน โรนัลโด้ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าจนเจ้าตัวเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวไป หลังจากนั้นไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบครึ่งแรกเสมอ 0-0

            ในครี่งเวลาหลัง ยังคงเป็นหนังม้วนเดิม ฝรั่งเศส โหมบุกใส่โปรตุเกสอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำ แต่ยังทำอะไรแนวรับที่แข็งแกร่งของโปรตุเกสไม่ได้ ก่อนจะจบ 90 นาที เสมอกันไป 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

            ช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมไม่ค่อยเดินเกมบุกเข้าใส่กันเท่าที่ควร ต่างฝ่ายต่างเล่นกันอย่างรัดกุม โดยเป็นทีมเจ้าภาพที่ครองบอลได้ดีกว่าเล็กน้อย

            แต่แล้วในนาทีที่ 109 โปรตุเกส มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงนอกกรอบของ เอแดร์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งเวลาหลัง

            หลังจากเสียประตู ฝรั่งเศส พยายามเร่งเกมอย่างหนักเพื่อทวงประตูตีเสมอ แต่ก็ทำอะไรโปรตุเกสไม่ได้ จบ 120 นาที เป็นทีมฝอยทอง โปรตุเกส เอาชนะ ฝรั่งเศส 1-0 คว้าแชมป์ยูโร 2016 ไปครองได้สำเร็จ

            โดยการคว้าแชมป์ครั้งนี้ของทีมโปรตุเกส นอกจากเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกแล้ว ยังถือเป็นแชมป์รายการเมเจอร์แรกในประวัติศาสตร์ทีมชาติโปรตุเกส หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่เลยแม้แต่รายการเดียว ทำได้ดีที่สุดคือแค่รองแชมป์เท่านั้น