เมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.วานิสษา งามหอมชื่นสกุล อายุ 30 ปี เจ้าของบริษัททัวร์ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พาเพื่อนชายชาวจีน อายุ 28 ปี อาชีพนักธุรกิจจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกสาวประเภทสองชาวไทยคนหนึ่งหลอกลวงและทำให้เสียทรัพย์
โดย น.ส.วานิสษา ให้การแทนเพื่อนของตัวเองที่พูดภาษาไทยไม่ได้ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนว่า เมื่อหลายวันก่อน เพื่อนตนได้ใช้โปรแกรมโมโม่แชทคุยกับคนๆ หนึ่ง ซึ่งใช้ภาพโปรไฟล์และในสเตตัส เป็นภาพหญิงวัยรุ่นหน้าตาดีคล้ายสาวเกาหลี และมีรูปร่างผอมเพรียวเซ็กซี่ พร้อมกับอ้างว่าตัวเองเป็นหญิงไทยแท้ๆ และมีที่พักอาศัยอยู่ในเมืองพัทยา พอแชทคุยได้ไม่กี่วันเพื่อนของตนหลงเชื่อ ประกอบกับถูกอกถูกใจในความน่ารักเลยขอเจอตัวจริง หญิงในโลกออนไลน์จึงนัดเจอกันตอนตี 3 คืนวันที่ 7 ก.ค. ที่คอนโดแห่งหนึ่ง แถวชายหาดพัทยากลาง
และเมื่อเพื่อนตนเดินทางไปถึงและขึ้นลิฟท์ไปยืนรออยู่หน้าห้องที่นัดหมายไว้ ต่อมามีสาวประเภทสองคนหนึ่งเดินออกจากลิฟท์แล้วตรงเข้ามาโอบกอดเพื่อนของตน เจ้าตัวถึงกับสะดุ้งตกใจรีบสะบัดตัวหนีจากนั้นจึงสอบถามว่าเป็นใครเพราะไม่รู้จัก และได้รับการเฉลยว่าตัวเองคือหญิงสาวหน้าตาดีที่แชทพูดคุยและนัดเจอกัน ทำเอาเพื่อนของตนถึงกับตกใจรีบถอยหนี แต่ก็ยังถูกตามตื๊อไม่เลิก จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอนโดที่ดูกล้องวงจรปิดอยู่ ต้องขึ้นมาห้ามปรามและบอกให้ทั้งคู่ลงมาชั้นล่าง โดยสาวประเภทสองรายนี้ยื่นข้อเสนอขอเงินจำนวน 1,000 บาท เป็นค่าเสียเวลา แต่เพื่อนตนไม่ยอมให้เลยเกิดการโต้เถียงและมีการทำร้ายกัน จน รปภ.ต้องรีบเข้ามาห้ามปรามแล้วบอกให้ทั้ง 2 คนแยกย้ายกันกลับที่พัก
ภายหลังเพื่อนชาวจีนคนนี้ ได้นำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษาตนและขอให้ช่วยพาเข้าแจ้งความ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือยังตกแตกเสียหาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือรู้สึกคับแค้นใจที่ถูกหลอกลวง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวสาวประเภทสองรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่คอนโดฯ สถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับตรวจสอบรายชื่อบุคคลภายนอกที่เข้ามาในคอนโดฯ จนทราบชื่อสาวประเภทสองรายนี้แล้ว และยังขอภาพเหตุการณ์ที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ก่อนออกติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.
+ อ่านเพิ่มเติม