ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” คือวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเกมในรอบ 4 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 2 ระหว่าง เจ้าภาพ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ลงสนามพบ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่สต๊าด เวโรโดรม เมืองมาร์กเซย
คู่นี้เคยดวลกันมาทั้งสิ้น 12 นัด เป็นฝรั่งเศสที่เอาชนะไปได้ 6 นัด เยอรมนีชนะ 4 นัด เสมอกันไป 2 นัด โดยทีมเจ้าภาพไล่ต้อนไอซ์แลนด์ 5-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนเยอรมนี เอาชนะจุดโทษอิตาลีมาด้วยสกอร์ 6-5
เกมนี้ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ กุนซือใหญ่ทีมตราไก่ จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ฮูโก โยริส กองหลัง ปาทริซ เอฟร่า, โลร็องต์ กอสเชียลนี, ซามูเอล อุมติตี, บาการี ซานญา โดยมีพอล ป็อกบา, แบรสต์ มาตุยดี คุมเกมแดนกลาง ส่วน 3 แนวรุกใช้อองตวน กรีซมันน์, มุสซ่า ซิสโซโก, ดิมิทรี ปาเย็ต และกองหน้าตัวเป้าใช้โอลิวิเยต์ ชิรูด์
ด้าน โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมอินทรีเหล็ก จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู มานูเอล นอยเออร์ กองหลัง เบเนดิกต์ โฮเวเดส, เจอโรม บัวเต็ง, โจนาส เฮ็คเตอร์, โจชัว คิมมิช โดยมีบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, เอ็มเร ชาน คุมเกมแดนกลาง ส่วน 3 แนวรุกใช้เมซุต โอซิล, โทนี โครส, จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ ส่วนหน้าเป้าใช้โธมัส มุลเลอร์
เริ่มเกม เยอรมนี ครองบอลเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่าแต่ยังเจาะแนวรับของทีมเจ้าภาพไม่ได้ ซึ่งฝรั่งเศสเองมีโอกาสตอบโต้บ้างเล็กน้อยจากจังหวะโต้กลับ
แต่แล้วช่วงท้ายครึ่งแรก ฝรั่งเศส มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษ และอองจวน กรีซมันน์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ให้ทีมเจ้าภาพออกนำ 1-0 ถือเป็นประตูที่ 5 ของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ในครึ่งเวลาหลัง เยอรมนีโหมบุกใส่ฝรั่งเศสอย่างหนักเพื่อหวังประตูตีเสมอ มีโอกาสหลายครั้งหลายหนแต่ก็จบสกอร์กันไม่ได้
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 72 ฝรั่งเศส มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะสวนกลับ พอล ป็อกบา ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเข้ากลางให้อองตวน กรีซมันน์ ยิงผ่านมือมานูเอล นอยเออร์ เข้าไป เป็นประตูที่ 6 ของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้ นำห่างในตำแหน่งดาวซัลโว
หลังจากนั้นทีมอินทรีเหล็ก พับสนามบุกเข้าใส่ฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังประตูตีเสมอ แต่ก็ทำอะไรแนวรับที่แข็งแกร่งของทีมเจ้าภาพไม่ได้ ได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเท่านั้น
จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ เยอรมนี 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ โปรตุเกส ที่เอาชนะเวลส์มา 2-0 เมื่อวันก่อน
การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของทีมตราไก่ ถือเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ซึ่ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้เมื่อผ่านเข้าไปรอบชิงฯ พวกเขาคว้าแชมป์ได้ทุกครั้ง ขณะที่เยอรมนี ถือเป็นการอกหักตกรอบ 4 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3
ประเทศฝรั่งเศส
มาร์กเซย
ฝรั่งเศส
เยอรมนี
โปรตุเกส
กรีซมันน์
ยูโร2016
ผลบอลยูโร
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป