ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมณตา หยกรัตนกาญ อายุ 56 ปี หรือ หญิงไก่ ได้เดินทางมาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อกราบไหว้พระพุทธชินราช จากนั้น ได้เดินทางมารับประทานอาหารกลางวันที่ชั้น 2 โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า
พร้อมเปิดเผยว่า มีความตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อพระพุทธชินราช ที่ได้กราบไหว้มาตลอดชีวิต มากราบว่า ถ้าเกิดผู้ต้องหานำเงินหรือทรัพย์สินของดิฉันไป ก็ขอให้เขามีอันเป็นไป แต่ถ้าเขาไม่ได้ลักขโมยของดิฉันไป ก็ขอให้ดิฉันมีอันเป็นไป ถ้าเราใส่ความเขา ก็ขอให้เรามีแต่ภัยพิบัติเกิดขึ้นในชีวิต แต่ถ้าเขาเอาของเราไปจริงก็ขอให้เรามีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิต ได้บอกหลวงพ่ออย่างนี้ ส่วนหลังจากนี้ การดำเนินชีวิตก็ปกติ ไม่หนีไปไหน ตอนนี้กระแสสังคมตัดสินไปแล้ว สื่อบางสื่อ ตัดสินไปแล้ว ตอนนี้ตนจึงเหลือที่พึ่งสุดท้ายคือศาล เดิมมีโปรแกรมจะไปเชียงราย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ให้เข้ามอบตัวเพื่อให้การในวันที่ 11 ก.ค. ตนก็ใจร้อนอยากจะไปทันที
ส่วนที่มาของผู้คนที่เรียกว่าหญิงไก่นั้น เนื่องจากมีสื่อมวลชนอาวุโสของพิษณุโลกคนหนึ่งเรียกตน จากการที่ตนโชว์เครื่องเพชร แจกทุนการศึกษา สร้างวัด ด้วยเงินตัวเอง ทุกคนก็เรียกว่าหญิงไก่ บางคนอื่นก็เติมว่า คุณหญิงไก่ ตนก็ไม่ได้สนับสนุน แต่คนเรียกเองว่าคุณหญิงไก่ ตนก็ห้ามไม่ได้ แล้วแต่คนที่ศรัทธา แต่สำหรับเด็กที่ออกข่าวนั้น ไม่ได้เรียกว่าหญิงไก่ แต่เรียกตนว่าคุณนาย
สำหรับกรณีไปแม่ฮ่องสอนนั้นตนไปจริง แต่เพื่อต้องการอุปการะส่งเด็กเรียน ไม่ได้เอาเด็กมาเป็นคนรับใช้ ในทางคดีข้อกล่าวหาต่าง ๆ ตนปฏิเสธตลอด ที่พึ่งจึงอยู่ที่ศาลเท่านั้น ที่ผ่านมาเราผิดตามกระแสสังคมตามที่ฝ่ายตรงข้ามชี้นำ ชี้นำว่าค้ามนุษย์บ้าง เป็นคุณหญิงปลอมบ้าง ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นของปลอม คดีแค่ลักทรัพย์ ตัวเองไม่ได้ลักทรัพย์ก็มาคุยกัน มาสู่ศาลก็มีการประนีประนอม ไม่ใช่คดีใหญ่โตเลย เกิดมาไม่เคยเอาใครติดคุกเลย ตอนนี้ตนกำลังดำเนินการเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกที่คนมาว่าว่าเราเป็นจริงตามผู้ที่ชี้นำ ซึ่งผู้ที่ชี้นำเราดำเนินคดีอยู่แล้ว
สำหรับหมายเรียกจากกองปราบนั้น หญิงไก่กับทนายความ ระบุว่า ยังไม่ได้รับอย่างเป็นทางการ แต่ก็ทราบข่าวแล้วจากสื่อ และพร้อมที่จะไปพบ
+ อ่านเพิ่มเติม