จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าได้มีรถตู้โดยสารกรุงเทพ-พัทยา และรถตู้โดยสารกรุงเทพ-ศรีราชา ได้ขับรถปาดกันไปมาเพื่อแย่งรับผู้โดยสาร และได้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่กัน เหตุเกิดบริเวณถนนสุขุมวิท ขาเข้าเมืองชลบุรี ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม จังหวัดชลบุรี โดยมีนายอรรคเดช เหลืองอ่อน อายุ 33 ปี คนขับรถตู้โดยสาร กรุงเทพฯ - พัทยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้บริเวณสามแยกวิบูลย์ธรรมรักษ์ แต่นายอรรคเดช ให้การว่าได้ถูกนายจันทร์ ฉลาดสิทธิ์ อายุ 49ปี คนขับรถตู้กรุงเทพ-ศรีราชา แย่งรับผู้โดยสาร จึงได้ขับรถปาดหน้า เพื่อลงไปถามว่าเป็นรถที่วิ่งประจำคิว สามารถรับผู้โดยสารได้หรือไม่ จึงเกิดการโต้เถียงจนเกือบที่จะชกต่อย แต่นายจันทร์ ได้ชักปืนออกมายิงข่มขู่ก่อน นายอรรคเดช จึงรีบขึ้นรถและขับหลบหนี จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิทยุสกัดจับ นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. พันตำรวจเอกสมโชค ตาผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำตัวนายจันทร์ ฉลาดสิทธิ์ คนขับรถตู้กรุงเทพ ศรีราชา ที่นายอรรคเดช อ้างว่าใช้อาวุธปืนยิงใส่ มาแถลงข่าว โดยนายจันทร์ ให้การว่าวันเกิดเหตุ ตนแค่เพียงจอดส่งผู้โดยสารตามปกติ ไม่ได้รับผู้โดยสารแต่อย่างใด แต่ได้ถูกนายอรรคเดช ขับปาดหน้าไปมา และลงมาถามหาเรื่องและจะเข้ามาทำร้าย ตนเห็นท่าไม่ดี จึงได้ใช้อาวุธปืนแก๊ป ที่ติดอยู่กับรถขึ้นมาข่มขู่ยิงทำให้นายอรรคเดช ตกใจกลัวเพราะมีเสียงดัง ไม่ได้ใช้อาวุธปืนจริงยิงแต่อย่างใด เพราะก็ต้องป้องกันตัวเองเนื่องจากนายอรรคเดช ตัวใหญ่กว่ากลัวว่าจะถูกทำร้าย พร้อมทั้งสาธิตการทำท่ายิงปืนแก๊บที่เสียงดังเหมือนปืนจริงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สั่งปรับนายจันทร์ จำนวน2 พันบาท ในข้อหาสร้างความเดือนร้อนทำให้ผุ้อื่นตกใจกลัว และจะได้นำตัวนายจันทร์ ไปอบรมในค่ายทหาร พร้อมทั้งยึดรถไว้เป็นเวลา 7-15 วัน เพื่อไม่ให้วิ่งรับจ้างต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม