จากกรณีเมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากประชาชน ว่ามีหินประหลาดร่วงจากฟ้า ทะลุใส่หลังคาบ้าน จนหลังคาทะลุ ที่บ้านเลขที่ 155 ม.3 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของนางบัวล้อม ชโลมไพร อายุ 65 ปี โดยพบว่าก้อนหินดังกล่าว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร หนักประมาณ 300 กรัม โดยภายนอกของก้อนหินมีลักษณะเป็นสีดำ ด้านในของก้อนหินมีลักษณะคล้ายปูน สีขาว ขุ่น ส่องแสงระยิบระยับเวลามีแสงไฟกระทบ
นางบัวล้อม ชโลมไพร เผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. เวลาประมาณ 7.30 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนและเศษกระเบื้อง และกรอบรูปที่แขวนไว้บริเวณข้างฝาหน้าห้องนอนก็ร่วงลงมาแตกกระจาย พอเดินไปดูก็ไม่พบปลอกกระสุนปืน แต่กลับพบก้อนหินขนาดเท่าไข่ไก่ มีร่องรอยแตกเป็นชิ้นกระจายอยู่ใกล้เคียง ตนก็เอื้อมมือไปหยิบ จะดูว่าเป็นก้อนอะไร แต่ก็ต้องตกใจเมื่อก้อนหินดังกล่าวนั้นร้อนมากจึงรีบปล่อยมือ รอจนพักใหญ่หินจึงคลายความร้อนลงจึงเก็บมาใส่พานไว้
ต่อมาลูกสาวได้เข้าไปดูในโลกโซเชียล ก็พบว่ามีหลายพื้นที่ เช่น ใน อ.นครไทย อ.ชาติตระการ เกิดปรากฏการณ์เสียงดังคล้ายระเบิดขนาดใหญ่ มีการสั่นสะเทือนไปหลายพื้นที่ ตนจึงเชื่อว่าก้อนที่ตกใส่หลังคาบ้านตน อาจจะเป็นชิ้นส่วนของอุกกาบาต หรืออะไรสักอย่างที่ร่วงมาพร้อมๆ กับในพื้นที่อื่น และเชื่อว่าจะนำแต่โชคลาภ และความโชคดีมาให้ตนและครอบครัว ซึ่งหลังจากนี้ หากมีเจ้าหน้าที่ที่จะขอนำชิ้นส่วนไปพิสูจน์ ตนก็จะให้ได้แต่ชิ้นเล็ก ที่แตกออกมา ส่วนชิ้นใหญ่ตนจะเก็บไว้บูชาตามความเชื่อ
ขณะที่ในโลกออนไลน์ของชาวพิษณุโลกเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ได้มีการสอบถามว่า ได้ยินเสียงดังบนท้องฟ้า แต่ก็ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด โดยพบว่ามีประชาชนหลายอำเภอในจังหวัดพิษณุโลกได้ยินเสียงดังกล่าว
ต่อมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศราวุฒิ เถื่อนถ้ำ หัวหน้าภาควิชาพิสิกส์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คเชนทร์ แดงอุดม รองหัวหน้าภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำการตรวจสอบก้อนหินดังกล่าว โดยได้ทดลองนำแม่เหล็กมาทำการตรวจสอบชิ้นส่วนวัตถุดังกล่าว เบื้องต้น พบว่าเกิดแรงสตรองสูงแม่เหล็กและเศษวัตถุดังกล่าวมีแรงดึงดูดติดกันอย่างชัดเจน จึงมั่นใจได้ว่ามีส่วนประกอบของแร่เพอร์ไลต์ (Perlite) ตระกูลเดียวกับพวกเหล็ก ผสมกับซิลิกา จึงทำให้สังเกตุเห็นได้เมื่อกระทบแสงไฟว่ามีแสงประกายระยิบระยับ ซึ่งไม่ใช่หินที่พบตามธรรมชาติทั่้วไปแน่นอน
และจากการตรวจสอบเบื้องต้นจากภายนอกพบว่าวัตถุดังกล่าวมีรอยไหม้ เป็นแรงเยอร์อย่างชัดเจนจึงยิ่งส่งผลให้โอกาสที่วัตถุดังกล่าวที่พบ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเป็นชิ้นส่วนของขยะอวกาศ หรือที่เรียกกันว่าอุกกาบาต หรือเศษฝุ่นของดาว เศษซากของดาว หรือละอองดาว ที่เรียกว่า(สตาร์ดิส) ที่แตกและพุ่งตกลงมาจนผ่านชั้นบรรยากาศของโลกที่ไม่น่าต่ำกว่า 10 กิโลเมตร จึงส่งผลให้เกิดแรงเสียดสีกับชั้นบรรยากาศเป็นรอยไหม้ที่พื้นผิวด้านนอกก่อนที่จะตกลงใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชน
หลังจากนั้น ได้นำเครื่องไกเกอร์มูลเลอร์เคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดธาตุกัมมันตภาพรังสี โดยมีมิเตอร์ที่มีหน้าปัดบอกปริมาณรังสีได้ มาทดลองตรวจวัดกับเศษวัตถุดังกล่าว ก็พบว่าไม่มีธาตุกัมมันตภาพรังสีที่เกินธรรมชาติแต่อย่างใด จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีอันตรายต่อผู้ที่ครอบครอง แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการส่งตรวจที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าก้อนหินดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนของอะไร และมีแร่ธาตุอะไรประกอบอยู่บ้าง
+ อ่านเพิ่มเติม