เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.59 ที่ ห้องประชุม ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายอภิชาต จารุศิริ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ. 45 พ.ต.อ. สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายวงศ์ศักดิ์ ประเทียบอินทร์ ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 8 ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือ กรณีเยาวชนในศูนย์ฯ กว่า 400 คน ก่อเหตุทะเลาะวิวาท เมื่อเย็นวานนี้ (14 มิ.ย.59) ส่งผลให้เยาวชนเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นภายในศูนย์ฝึกฯ โดยตำรวจ ทหาร กองกำลังอาสา ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกฯ และทีมนักประดาน้ำ มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี กว่า 200 นาย เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พบสิ่งดัดแปลงใช้เป็นอาวุธจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในพงหญ้า ฝังดิน และบ่อน้ำ ขนาดประมาณ 5 คูณ 10 เมตร มีความลึก 2 เมตร โดยที่ประชุมได้ร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขเหตุรุนแรง ได้แก่ การจัดระเบียบภายในศูนย์ฝึกฯ อีกทั้งจะมีการแยกเยาวชนที่เป็นแกนนำออกไปควบคุมในพื้นที่อื่น ตลอดจนร่วมกับทหารมณฑลทหารบกที่ 45 ในการเข้ามาฝึกวินัยให้กับเยาวชน และการจัดทำทะเบียนเยาวชนเพื่อกำกับและติดตามควบคุม
ด้านนายอภิชาต จารุศิริ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า สาเหตุของการทะเลาะวิวาท เป็นปัญหาเรื้อรังที่มีมานานแล้ว โดยเกิดจากความขัดแย้งของกลุ่มเยาวชนที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม เนื่องจากที่นี่ต้องรับเยาวชนจากหลายจังหวัด เข้ามารวมอยู่ในที่เดียวกัน จึงเป็นธรรมชาติของเด็ก ที่จะพยายามหาผู้นำกลุ่มและเครือข่าย ซึ่งกรมฯ ได้หาแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาว ด้วยการสร้างศูนย์ฝึกแห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อลดจำนวนเยาวชนที่จะส่งตัวเข้ามาที่สุราษฎร์ธานี โดยคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาการแบ่งกลุ่มของเยาวชนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเยาวชนที่ก่อเหตุซ้ำซาก และมีพฤติกรรมเป็นหัวหน้ากลุ่ม หากอายุ เกิน 18 ปี ให้อยู่ในดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ว่าจะต้องมีการเคลื่อนย้ายสถานที่หรือไม่
พ.ต.อ. สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการดำเนินคดีกับเยาวชนที่ก่อเหตุ ได้ตั้งชุดคณะทำงานทีมภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้น อยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำทุกฝ่าย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ มาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อรวบรวมหลักฐาน และแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคล ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปและบุคคลใดบุคลหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมหรือไม่จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหากพยานหลักฐานสาวถึงตัวผู้กระทำการที่เป็นเหตุให้เสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพิ่มเติม
+ อ่านเพิ่มเติม