ศาลรธน.ไม่รับคำร้อง เรืองไกร ยื่น สุเทพชุมนุมการเมือง

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนา อดีตส.ว.สรรหา ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กระทำการเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้หรือไม่

ทั้งนี้คำร้องที่ผู้ร้องกล่าวอ้างมาจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ระบุว่า นายสุเทพ ได้นำมวลชนกระทำผิดกฎหมายเข้ารวมตัวกันยึดพื้นที่ และบริเวณโดยรอบกระทรวงการคลัง มีการตัดน้ำ ตัดไฟ ข่มขืนใจเจ้าหน้ารัฐให้หยุดการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลอาญาได้มีหมายจับนายสุเทพ ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้วุ่นวายในบ้านเมือง อันผิดต่อประมวลอาญา มาตรา 215 วรรคสาม มาตรา 365 ประกอบมาตรา 362 โดยนายสุเทพมีวัตถุประสงค์ขับไล่ระบอบทักษิณ และเสนอระบบการปกครองใหม่ โดยจัดตั้งสภาประชาชน ซึ่งมาจากทุกอาชีพสร้างนายกฯ และรัฐมนตรีในฝันของประชาชน จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้นายสุเทพหยุดยึดสถานที่ราชการ และเลิกการจัดตั้งสภาประชาชน พร้อมสร้างนายกฯ และรัฐมนตรีในฝันไว้ก่อน รวมถึงเลิกกระทำในความผิดในหมายศาลอาญาโดยเร็วที่สุด

ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นการกระทำในนามประชาชนที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองไว้ ส่วนการยึดสถานที่ราชการ ก็ไม่เกิดขึ้นแล้ว และสถานการณ์ตามคำร้องได้พัฒนาไปสู่การยุบสภาผู้แทนราษฎร และเข้าสู่กระบวนการของการเลือกตั้งแล้ว จึงไม่มีมูลกรณีที่เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ส่วนประเด็นคำขออื่น ไม่จำเป็นต้องพิจารณา