ล่าสุดศาลปกครองกลางได้ทำการไต่สวน คณะผู้บริหารเอไอเอส และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) เสร็จสิ้นแล้วโดยใช้เวลาในการไต่สวน นานกว่า 3 ชั่วโมง โดยหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่าทั้ง 2 ฝ่าย คือเอไอเอสและ กทค. ต่างก็ให้ข้อมูลกับศาลในรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากซิมดับหลังเที่ยงคืนวันนี้ โดยยืนยันเป้าประสงค์เดียวกันคือการดูแลผู้ใช้บริการในระบบ 2G ที่ต่างก็ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาซิมดับแต่ยังมีข้อขัดข้องเรื่องข้อกฎหมาย
โดยระหว่างการไต่สวน เลขาธิการ กสทช. ได้เสนอทางออกต่อศาลโดยให้ เอไอเอส ใช้คลื่นความถี่ 900MHz ของทรูมูฟเอชฯ ในการเยียวยาผู้ใช้งานที่เหลือ 400,000 ราย ตามที่ทรูมูฟเอช ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการมายัง กสทช. แสดงความจำนงค์ว่ายินดีให้เอไอเอสใช้งานคลื่นความถี่(โรมมิ่ง)ได้ฟรี ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 3 เดือน แต่ทรูมูฟเอช ในฐานะเจ้าของคลื่น จะต้องเป็นผู้ดำเนินการติดต่อขอใช้โครงข่ายของทีโอที ดังนั้นหากเอไอเอสยอมรับข้อเสนอ ก็จะต้องเจรจากับทรูมูฟเอชในเรื่องนี้ให้จบก่อนวันที่ 22 มีนาคมนี้
ส่วนอีกข้อเสนอหนึ่งก็คือ การขยายเวลาเยียวยา 3 เดือน ตามที่เอไอเอสร้องขอ
ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส เปิดเผยว่าได้ชี้แจงต่อศาลถึงข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้คลื่นความถี่ ชุดที่ 2 ซึ่งทรูมูฟเอชได้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวว่า หากจะให้เอไอเอสโอนย้ายลูกค้าที่อยู่ในคลื่นชุดที่ 1 มายังคลื่นชุดที่ 2 จำเป็นต้องใช้เวลาในการโอนย้ายนานถึง 1 เดือน ทำให้ต้องขยายระยะเวลาคุ้มครองเยียวยาผู้ใช้บริการออกไปอีกแต่อย่างไรก็ตาม ทางเอไอเอสและกทค. จะต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรโดยทราบว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาภายในวันนี้ก่อนเที่ยงคืน คาดว่าน่าจะไม่เกิน 20:00 น. ของวันนี้ โดยจะมีการส่งเอกสารคำสั่งของศาลไปยังสำนักงานกสทช.และ AIS เพื่อให้ปฏิบัติตาม
ทั้งนี้เอไอเอสได้เตรียมแผนรับมือหากศาลมีคำสั่งไม่ขยายระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ 2G โดยการเตรียมเครื่องโทรศัพท์มือถือและซิมการ์ดใหม่ ให้กับลูกค้า 400,000 รายที่ได้รับผลกระทบจากซิมดับหลังเที่ยงคืนวันนี้ แต่ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 2 วัน ถึงจะครอบคลุมผู้ใช้บริการ 400,000 ราย
+ อ่านเพิ่มเติม