นายกสมาคมศัลยกรรมฯร้อง สคบ.สอบโครงการเฟส ออฟ เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค

           นายกสมาคมศัลยกรรมการตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย เชื่อ โครงการ เฟสออฟ บาย ดร.เซปิง เข้าข่ายการหลอกลวงผู้บริโภค เนื่องจากมีการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง เบื้องต้นได้เรียกร้องให้สคบ.เข้ามากำกับดูแล ตรวจสอบ

           นายแพทย์ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมการตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย หรือ สบท. กล่าวถึงกรณีที่มีการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง สุรชัย สมบัติเจริญ ในโครงการ เฟส ออฟ บาย ดร.เซปิง ที่มีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมความสวยงาม โดยวิธีการผ่าตัด 10 อย่างบนใบหน้า กระชากความแก่จากอายุ 60 ปีให้เหลือ 30 ปี ว่าการโฆษณาชวนเชื่อในลักษณะดังกล่าว เข้าข่ายการหลอกลวงผู้บริโภค ให้เกิดความเชื่อมั่นและคาดหวังในการทำศัลยกรรม ซึ่งในข้อเท็จจริงการศัลยกรรมล้วนมีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่การโฆษณาในลักษณะนี้เป็นการให้ข้อมูลด้านเดียว ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น อยากที่จะผ่าตัดศัลยกรรมปรับเปลี่ยนใบหน้าให้ดูดีขึ้น โดยไม่ศึกษาข้อดีข้อเสียให้ถ่องแท้ ขณะที่การโฆษณาว่ามีการใช้วิธีการเฟสออฟ ผ่าตัดอวัยวะหลายแห่งบนใบหน้า นายแพทย์ชลทิศระบุว่า ข้อความดังกล่าวน่าจะเป็นเทคนิคการใช้คำพูดหรือข้อความเพื่อสร้างความน่าสนใจทางด้านการตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าของโครงการก็ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลว่าการผ่าตัดอวัยวะหลายอย่างบนใบหน้ามีการผ่าตัดในอวัยวะส่วนใดบ้าง ซึ่งหากไม่มีการชี้แจงหรือให้ข้อมูลที่ไม่ครบ ก็ถือเป็นการสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคได้

           ทั้งนี้นายแพทย์ชลทิศได้เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ลงมากำกับดูแลการโฆษณาด้านธุรกิจเกี่ยวกับการเสริมความงาม หลัง 2-3 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตและสื่อออนไลน์ ที่กลุ่มนักการตลาดนำมาใช้เป็นช่องทางการเผยแพร่โฆษณากันมากขึ้น ทำให้ผู้รับสารในฐานะผู้บริโภค ได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ขาดการไตร่ตรองเท่าที่ควร และผลที่ตามมาจะสร้างความเสียหายและเกิดผลกระทบแก่ผู้บริโภคได้ โดยยืนยันว่าตามหลักสากล ธุรกิจทางด้านการแพทย์ไม่สามารถทำการโฆษณาได้