กพท.เรียกถกสายการบิน ห้ามขายตั๋วให้ 'ตุ๊กตาลูกเทพ' ถือเป็นสัมภาระ ต้องยอมให้ตรวจค้น

2,693 ครั้ง

27 ม.ค. 2559

แชร์ข่าวไปที่

สนง.การบินพลเรือนฯ ออกประกาศซักซ้อมความเข้าใจเรื่องการนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่อง หวังลดความขัดแย้ง ระบุหากไม่ซื้อตั๋วต้องเก็บไว้ในที่เก็บของเหนือศีรษะ

นายจุฬา สุขมานพ อธิบิดีกรมท่าอากาศยาน และรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินประจำ เพื่อหารือแนวทางปฎิบัติเกี่ยวกับตุ๊กตาลูกเทพ ว่า ในวันนี้จะมีประกาศการซักซ้อมความเข้าใจการนำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่องไปยังสายการบินและท่าอากาศยานทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจร่วมกัน และไม่เกิดปัญหาเวลาขึ้นเครื่อง โดยประกาศจะระบุว่า ตุ๊กตาลูกเทพเป็นสัมภาระติดตัวเพื่อขึ้นเครื่อง ไม่ใช่บุคคล ส่วนการรักษาความปลอดภัย ผู้โดยสารจะต้องจัดเก็บสัมภาระเหนือศรีษะและให้ปฏิบัติตามคำและนำและคำสั่งของเจ้าหน้าที่ในการให้เก็บสัมภาระ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องจะประกาศก่อนเครื่องขึ้น และระหว่างก่อนขึ้นเครื่องต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นตุ๊กตาลูกเทพที่นับเป็นสัมภาระชนิดหนึ่ง หากไม่ยอมให้ตรวจค้นหรือตรวจแล้วไม่ผ่านความปลอดภัยจะไม่ได้ขึ้นเครื่องทุกกรณี

ทั้งนี้สำหรับผู้ที่นำตุ๊กตาลูกเทพขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารสามารถนำขึ้นเครื่องได้ในกรณีที่ซื้อตั๋วเครื่องบินเพิ่มเต็มราคาปกติ ด้วยชื่อของผู้โดยสารที่เป็นเจ้าของตุ๊กตาลูกเทพ โดยไม่สามารถใช้ชื่อตุ๊กตาลูกเทพเป็นผู้จองซื้อตั๋วเครื่องบินได้ เช่นเดียวกับสัมภาระขนาดใหญ่ที่ต้องการนำขึ้นเครื่อง เช่น กีตาร์ ชาร์โลว์ เป็นต้น ส่วนการให้บริการความสะดวกต่างๆ ให้กับตุ๊กตาลูกเทพนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการตกลงกันของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง และหากเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นให้ขึ้นอยู่ในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องทั้งหมด ซึ่งหากผู้โดยสารกระทำความผิดตามหลักสากลการบินจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอาญา ตามความผิดมาตรา 7 ของ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานทางด้านการบินนานาชาติ ไม่ได้สอบถามถึงกรณีดังกล่าว เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในไทย และเป็นมาตรการในการออกมารองรับความปลอดภัยในช่วงที่มีกระแสเกิดขึ้นเท่านั้น

นายวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมายล์ ระบุ เข้าใจและพร้อมปฎิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งมองว่ามาตรากรที่ออกมาเป็นมาตรการภายใน ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย โดยเชื่อว่าทุกสายการสินจะต้องปฎิบัติตามขั้นตอนทุกอย่างตามกฎสัมภาระทุกประการ และมาตรการที่ดำเนินการนั้น เป็นการตอกย้ำพนักงานทุกรายให้เข้าใจและปฎิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งในกรณีนี้รวมถึงสัมภาระชนิดอื่นด้วย